เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุฤดูร้อนในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี โดยภายในหมู่บ้านหนองสะแก หมู่ที่ 6 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้เกิดเหตุฟ้าผ่าลงมาบริเวณต้นมะพร้าว หน้าบ้านเลขที่ 112 ซึ่งขณะที่เกิดเหตุฟ้าผ่านั้นได้มีคุณยายวัย 71 ปี แบกจอบกลับมาจากสวน ห่างจากจุดเกิดเหตุฟ้าผ่าไม่ถึง 20 เมตร รอดตายราวกับปาฏิหาริย์
จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณที่เกิดเหตุพบต้นมะพร้าวได้ถูกเจ้าของบ้านตัดโค่นล้มลงมาบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งบริเวณยอดพบรอยไหม้ที่เกิดจากฟ้าผ่าไปเมื่อวานนี้ ซึ่งทางเจ้าของบ้าน เปรยว่า เกรงจะเกิดเหตุฟ้าผ่าซ้ำ
จากการสอบถามนางประเสริฐ อายุ 71 ปี ยายเจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตอนนั้นตนแบกจอบกลับมาจากการปลูกต้นกล้ายูคาลิปตัสทึ่สวน พอจะถึงบ้านก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง ตนถึงกับสะดุ้งทิ้งจอบลงกับมือ และมีลักษณะหูอื้อ ยืนตะลึงขาแข็ง
จากนั้นจึงได้ตะโกนเรียกลูกชายออกมาดูก็พบว่าไฟกำลังลุกไหม้ บริเวณยอดมะพร้าว จึงให้ลูกชายถ่ายภาพไว้ขณะเกิดเหตุ โดยก่อนวันที่จะเกิดเหตุฟ้าผ่านั้นตนได้ฝันว่ามีไฟไหม้บริเวณกระท่อมข้างบ้าน ในความฝันตนได้นำน้ำมาดับไฟ บริเวณกระท่อมที่กำลังลุกไหม้ จนสามารถดับไฟได้ ทำให้มีความเชื่อว่า ความฝันในครั้งนี้เป็นลางบอกเหตุว่า หากตนดับไฟในกระท่อมที่ไหม้ไม่หมด ตนคงตายกับเหตุฟ้าผ่าในครั้งนี้ และทางบ้านก็ได้มีการตัดต้นมะพร้าวออกเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอย
ต่อจากนี้จะได้นิมนต์พระมาทำการสวดถอนต้นมะพร้าวที่เกิดฟ้าผ่าบริเวณหน้าบ้านออก ตามความเชื่อของคนเฒ่าแก่ในพื้นที่
ด้านนายอาคม ฉิมหัด อายุ 47 ปี ลูกชาย กล่าวว่า ตอนนั้นตนขายของอยู่ที่ร้านได้ยินเสียงระเบิดดังเปรี้ยง นึกว่าเกิดเหตุอะไร พอออกมาดูจึงพบว่าฟ้าได้ผ่าลงบริเวณยอดต้นมะพร้าวหน้าบ้านของพ่อตน ต่อมาได้ยินเสียงแม่เรียกให้มาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ ก็บอกว่าหากเกิดฟ้าผ่าภายในบ้านจะมีเคราะห์ หรือเป็นลางที่ไม่ดี ส่วนความเชื่อมตัวนั้นตนก็ไม่รู้ และไม่อาจบอกสาเหตุได้