ด่วน! อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ แตกแล้ว มวลน้ำมหาศาลทะลัก เตือนประชาชนเก็บเร่งด่วน

ด่วน อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ แตกแล้ว หลังฝนตกหนัก ทะลักท่วมนาข้าวชาวบ้าน เตือนประชาชนเก็บของเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ชาวบ้านหลายหมู่บ้านเดินทางมาสังเกตการณ์ที่อ่างเก็บน้ำหลังจากที่ทราบข่าวอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำเกิดรอยรั่วขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่มีพื้นที่ต่ำกว่าอ่างเก็บน้ำ ซึ่งปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลได้เข้าท่วมไร่นาของประชาชนรวมแล้วหลายพันไร่ ซึ่งชาวบ้านที่มาสังเกตการณ์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้

นางฉวี สำราญสุข ชาวบ้านฮ่องน้อยหมู่ 7 ตำบลกำพี้ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตนเองมีที่นา 5 ไร่ถูกน้ำท่วมทั้งหมดซึ่งจะปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกรงว่าน้ำจะท่วมในหมู่บ้านจึงได้ชักชวนเพื่อนบ้านมา 5-6 คนมาดูน้ำว่าเป็นอย่างไร

ซึ่งตอนนี้ก็เป็นกังวลว่าปริมาณน้ำจะยังไม่สามารถควบคุมได้เนื่องจากยังคงมีน้ำไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง ตนเองเกิดมาได้ 58 ปียังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน นาของเพื่อนบ้านมี 30 ไร่กับ 15 ไร่ก็ถูกน้ำท่วมทั้งหมด หากปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นก็อาจส่งผลให้น้ำท่วมหมู่บ้านได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาดูแลชาวบ้านด้วย

ด้าน นางวันเกตุลดา สุระป้อง ผู้ใหญ่บ้านบ่อหลุบ หมู่ 9 ตำบลโนนราษี อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า พบอ่างเก็บน้ำมีรอยรั่วขนาดใหญ่เมื่อช่วงเช้าวันนี้จึงได้แจ้งให้ลูกบ้านว่าห้ามใช้เส้นทางสัญจรเนื่องจากเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ชาวบ้านและนักเรียนจะต้องใช้สัญจรเข้าไปยังในตัวอำเภอบรบือและเด็ก ๆ เดินทางมาเรียนที่โรงเรียนบ้านโคกกลาง

ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร หากจะต้องไปทำงานที่ตัวอำเภอบรบือจะต้องใช้เส้นทางอื่นอ้อมไประยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร แต่ตอนนี้ทราบว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงไปส่งผลให้หลายพื้นที่ในตำบลใกล้เคียงก็ถูกน้ำท่วมแล้ว หากไม่เร่งดำเนินการซ่อมแซมหมู่บ้านก็อาจจะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ เบื้องต้นได้แจ้งให้ลูกบ้านอยู่ในพื้นที่เพราะเกรงว่าหากออกมาจะเกิดอันตรายได้

ด้านนายชลศักดิ์ สุขขี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานมหาสารคาม กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ มีความจุ 5.08 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา อ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำ 2.7 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 58% ของความจุอ่าง ได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุม มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างถึง 145 มิลลิเมตร ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 3 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นปริมาณน้ำ 116 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณความจุอ่าง

ซึ่งจากภาพที่สื่อออกไปทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ว่าอ่างมีรอยรั่ว ข้อเท็จจริง คือ ชลประทานได้รับงบประมาณปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้น จากเดิมมีช่องขนาด 4×4 เมตร จะขยายให้เป็น 6×6 เมตร นั่นหมายความว่าเราจะสามารถระบายน้ำออกจากวันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 4 ล้านลูกบาศก์เมตร

ซึ่งได้ทำนบดินปิดกั้นทางน้ำ เพื่อที่จะทำการก่อสร้าง แต่ด้วยฝนที่ตกลงมามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น จึงล้นตัวทำนบดินชั่วคราวที่กั้นน้ำไว้ ทำให้มีพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรได้ผลกระทบ 3 ตำบล พื้นที่นาข้าวประมาณ 3,000 ไร่ โดยโครงการชลประทานได้ติดตามสถานการณ์น้ำรายชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังว่าระดับน้ำมีปริมาณเพิ่มขึ้นหรือมีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ปริมาณน้ำเริ่มลดลง ทางชลประทานก็จะดำเนินการปิดทำนบดินเพื่อให้กระทบกับชาวบ้านน้อยที่สุด

ในการดำเนินการซ่อมแซมก็จะต้องดูระดับน้ำว่าระดับน้ำเริ่มลดลงหรือทรงตัว ก็จะปิดทำนบชั่วคราว โดยการใช้แกรเบียล และบิ๊กแบค เพื่อไม่ให้น้ำไหลลงไปที่พื้นที่ด้านล่าง

ขอให้พี่น้องประชาชนชาวอำเภอบรบือที่อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ อย่าได้ตื่นตระหนก เนื่องจากไม่ใช่ระบบของอ่างเก็บน้ำขาด ซึ่งได้รายงานให้กับจังหวัดและหน่วยงานที่กรมชลได้ทราบแล้ว อ่างเก็บน้ำไม่ได้แตก เป็นทำนบดินชั่วคราวมีน้ำล้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 16 กรกฎาคม 67 ที่อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม น้ำได้กัดเซาะบริเวณอาคารระบายน้ำล้น ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง เพื่อขยายขนาดช่องระบายน้ำ

โดยได้ทำนบดินกั้นน้ำเอาไว้ แต่ด้วยฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องข้ามวันข้ามคืน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างอย่างรวดเร็ว วันเดียว 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำเกินปริมาณความจุอ่าง น้ำไหลล้นทำนบดิน และกัดเซาะใต้ดิน ส่งให้ถนนที่ทำเป็นคันกั้นน้ำขาด ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาล ไหลทะลักเข้าพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ท้ายอ่างเก็บน้ำอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ บ้านสองห้อง บ้านฮ่องน้อย บ้านกำพี้ บ้านเหล่ากา ตำบลกำพี้ อ.บรบือ บ้านดอนงัว ต.ดอนงัว อ.บรบือ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ท้ายน้ำเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง เคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่ปลอดภัยอย่างเร่งด่วน… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_777777836193