เงินสด 12 ล้านบาท โผล่กองขยะ สาวพร้อมเพื่อนแจ้งตำรวจตามหาเจ้าของ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดธนบัตรดังกล่าวกลับมา เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยถูกต้องหรือไม่
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 มิถุนายน 2568 สืบเนื่องจากคืนวันที่ 5 มิถุนายน เวลาประมาณ 20.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบธนบัตรเงินสดจำนวนมาก บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณตึก P2 ชั้น 4 คอนโดเมืองทองธานี ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี


ต่อมา พ.ต.ท.บรรจบ ราชกิจ สวป. สภ.ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจได้เดินทางไปตรวจสอบ พบ น.ส.อุษา บุญนอก ผู้พบเงินเป็นคนแรก ให้การว่า เวลาประมาณ 19.40 น. ขณะกำลังจะกลับเข้าที่พักในตึกดังกล่าว ได้เห็นกล่องพลาสติกสีเทาวางอยู่หน้าลิฟต์บริเวณจุดทิ้งขยะ ด้วยความต้องการนำกล่องไปใช้ จึงหยิบกล่องขึ้นมาและเทของในกล่องออก ก่อนจะพบธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทจำนวนมากภายในกล่องดังกล่าว
ด้วยความตกใจ น.ส.อุษา จึงรีบโทรแจ้งเพื่อนคือ น.ส.ณทภัต ชัยฉัตรสุรดิษ และ น.ส.ภัสสรหทัย บงกชธนัญ ให้มาช่วยตรวจสอบ จากนั้น น.ส.ณทภัตฯ ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ โดยบริเวณใกล้เคียงกับกล่องเงิน ยังพบเอกสารรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายจากสำนักงาน กสทช. ซึ่งมีชื่อผู้รับเป็น “นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว”
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกับพลเมืองดีตรวจยึดธนบัตรดังกล่าวกลับมายัง สภ.ปากเกร็ด เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยถูกต้องหรือไม่ และตามหาผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริง

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 10 มัด (มัดละ 10 แหนบ) และอีก 20 แหนบ รวมทั้งสิ้นเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดถูกเก็บไว้ในถุงดำและนำกลับมาที่ สภ.ปากเกร็ด โดย ร.ต.ท.หญิงชณิดา ภาทิพย์รักษา รอง สว.สอบสวน สภ.ปากเกร็ด ซึ่งเป็นเจ้าของคดี ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว และชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามหาเจ้าของเงินรายนี้อย่างเร่งด่วน

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ และได้พบกับ น.ส.ณทภัตฯ ซึ่งเล่าว่า ตนเป็นลูกบ้านในตึกดังกล่าว และในช่วงเวลาเกือบ 20.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน ได้เดินไปที่ลิฟต์พร้อมกับ น.ส.อุษา และ น.ส.ภัสสรหทัย ซึ่งข้างลิฟต์เป็นจุดทิ้งขยะ น.ส.อุษาฯ พบกล่องพลาสติกที่อยู่ในสภาพดี และมีเสื้อผ้าวางปิดอยู่บนกล่อง จึงเปิดดูและพบว่าเป็นเงินสดจำนวนมาก โดยเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท มัดรวมกันไว้ จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ น.ส.อุษา ผู้พบเงินคนแรก แต่เธอแจ้งว่าติดธุระอยู่กับลูกค้า และมีนักข่าวโทรศัพท์เข้ามาจำนวนมากจนรู้สึกไม่สะดวก จึงขอเวลาในการทำมาค้าขายก่อน แล้วจะติดต่อกลับในภายหลัง
