วันที่ 24 พ.ค.68 มีรายงานว่า พ.ต.ต. อนุวรรตร์ รักษายศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ใช้เฟซบุ๊ก “Anuwat Raksayot” โพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ และ ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย 2 นักบินเสียชีวิตในเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตกในพื้นที่ใกล้วัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ค.68 โดยเนื้อหาในโพสต์ระบุว่า
…….เอก เป็นมนุษย์ ชั้น Premium เกรด AAAA+++++++
…….เอก ไม่ใช่แค่เพื่อนสำหรับผม แต่เป็นมากกว่านั้น เอกเป็นเหมือน พี่ชายที่คอยดูแลเอาใจใส่ เป็นพ่อที่คอยตักเตือนว่ากล่าวสั่งสอนในเรื่องการใช้ชีวิต เป็นครูอาจารย์ที่สอนทั้งวิชาชีวิต และวิชาการทำงาน
…….ผมและเอกเป็นเพื่อร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 52 และนักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 68 แต่ใน 7 ปีที่ใช้ชีวิตในโรงเรียนนั้นแทบไม่ได้คุยกันเลย เนื่องจากเอกเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ เป็นคนดีจากภายใน เป็นคนอารมณ์เย็น สุมขุม คิดดี พูดดี ทำดี มีความสามารถอย่างยิ่ง มีความคิดอ่านที่มากกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน ส่วนผมมีนิสัยเป็นคนที่ค่อนข้างเกือบจะตรงกันข้ามกับเอกเลย
…….จนกระทั่งเราทั้งสองคนจบการศึกษาและเลือกลงตำแหน่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจเมืองระนองพร้อมกัน และเลือกที่จะเช่าบ้านอยู่หลังเดียวกัน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่าเพื่อนรัก เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข
…….เอกชำนาญและมีความรู้ในงานสอบสวนมาตั้งแต่สมัยที่ฝึกงาน ส่วนผมช่วงฝึกงานค่อนข้างเที่ยวเล่นไม่สนใจที่จะเรียนรู้งานสอบสวนเลย ดังนั้นความรู้เบื้องต้นเกือบเท่ากับ 0 ทำงานในช่วงเดือนแรกนั้นผมทำอะไรไม่เป็นเลย เครียดมากและมักต้องดื่มเหล้าทุกคืนเพื่อให้นอนหลับ แต่ก็ยังมีไอ่หนุ่มคนนี้นี่แหละที่คอยช่วยสอนผม ช่วยประคับประคองอย่างใจเย็น จนผมสามารถทำงานได้บ้าง ทำงานได้ดี ทำงานได้ชำนาญ จนกระทั่งตอนนี้งานสอบสวนได้ซึมซับหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของผมไปเสียแล้ว
…….หลังจากนั้นทุกปัญหาของชีวิตผมก็มีมันนี่แหละที่คอยซัพพอร์ตผมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ชีวิตส่วนตัว และช่วยปรับนิสัยแย่ๆในช่วงวัยรุ่นของผม และเมื่อมีเวลาว่างก็มักจะชวนผมไปสวดมนต์ ไหว้พระ ทำบุญ ปฏิบัติธรรมเสมอมา
…….ผมใช้ชีวิต ทำงาน กิน นอน เที่ยว ปฏิบัติธรรม กับเอกอยู่หลายปีกว่าจะแยกย้ายไปทำงานตำแหน่งของแต่ละคน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ชีวิต มุมมองชีวิต แลกเปลี่ยนปรัชญาการใช้ชีวิต และแลกเปลี่ยนสนทนาธรรมด้วยกันมาโดยตลอด (ซึ่งส่วนมากก็เป็นมันนี่แหละที่สอนผมมากกว่าที่ผมสั่งสอนมัน)
…….เอกเป็นทั้งเพื่อนในทางโลกและทางธรรมของผมมาโดยตลอด ไม่ว่าเราจะห่างหายใช้ชีวิตส่วนตัวกันอย่างไร แต่ก็คอยติดต่อ ถามไถ่แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ชีวิต มาโดยตลอด มันบอกว่าภาคภูมิใจมากที่ผมเป็นตัวผมในวันนี้ ซึ่งแท้จริงแล้วที่ผมมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะมันนั่นแหละ มันคือร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นผู้ชี้ทางแก้ปัญหาให้ผมมาหลายต่อหลายครั้ง
…….ทุกครั้งที่ผมมีแพลนวางแผนตั้งเป้าที่จะทำอะไรจนกระทั่งในวันที่แผนที่ผมวางไว้นั้นประสบความสำเร็จ มันคือคนสำคัญคนแรกๆที่จะได้ฟังเรื่องราวจากผมอยู่เสมอ ผมมักจะพูดกับเอกเสมอว่าที่ผมมีวันนี้ได้ก็เพราะเอกเลยนะ ทุกครั้งที่ได้เจอเอกผมจะบอกกับเอกแทบทุกครั้งว่าขอบคุณที่มาเจอกันและเป็นเพื่อนกัน
…….ก่อนที่เอกจะไปสอบเป็นนักบินตำรวจ ผมได้คัดค้าน ทัดทานเอกไปหลายต่อหลายครั้งว่า คนดีมีความสามารถแบบเอกเป็นตำรวจทั่วไปได้ไหม เพราะเอกจะเป็นกำลังสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลยนะ อีกทั้งเครื่องบินตำรวจมันเก่ามากแล้วเสี่ยงมากด้วย แต่เอกก็ยังยืนกรานและบอกกับผมว่าเอกมองเห็นระบบบางอย่างของตำรวจที่ไม่เหมาะกับเอกเลย ระบบบางอย่างที่สังคมเกลียดชังและเอกก็ไม่ชอบระบบเหล่านั้นเหมือนกัน เอกเลยขอเลือกเปลี่ยนเส้นทางสู่นักบินตำรวจ
…….และแล้วเมื่อวานนี้เองเอกซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่ภารกิจในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ให้ผมพาเอกกับจ็อบไปทานข้าวนั่งคุยกันหน่อย ผมไปรับเอกและจ็อบมาพบลูกของผมภรรยาของผมซึ่งเป็นหนึ่งในความสำเร็จในชีวิตของผมที่มีครอบครัวที่อบอุ่น เอกบอกว่ามีแพลนที่จะแต่งงานแล้วเหมือนกัน ส่วนจ็อบเพิ่งแต่งงานได้ไม่นานก็ได้ปรึกษาเรื่องการวางแผนมีลูก
…….ระหว่างทางบนรถซึ่งผมกำลังขับบนถนน ภรรยาผมนั่งอยู่ข้างคนขับ มีเอกและจ็อบนั่งอยู่ด้านหลังพร้อมคุยเล่นกับลูกของผมอยู่นั้น ด้วยความที่ผมเป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้เสมอหนึ่งในบทสนทนาของพวกเราคือ ได้ข่าวว่าไม่กี่วันที่ผ่านมามีเครื่องบินของตำรวจตก เอกและจ็อบเป็นอย่างไรบ้าง ขับเครื่องบินอันตรายไหม และคนที่ตายจากการปฏิบัติหน้าที่แบบนี้นั้น ญาติได้รับการชดเชยเยียวยังไงบ้าง ผมและภรรยาก็ได้คำตอบว่า เครื่องบินที่ขับอยู่มีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปีซึ่งเก่ามากแล้ว แต่เอกบอกว่าไม่ต้องกลัวเพราะจ็อบมีฝีมือมากปลอดภัยแน่นอน
…….หลังจากทานข้าวเย็นกันผมและภรรยาก็ขับขี่รถพาเอกและจ็อบไปส่งที่พักและยังแซวและบอกทั้งสองคนเลยว่า ขอให้ปลอดภัยนะขับเครื่องบินระวังด้วย เครื่องบินมันเก่ากว่าอายุพวกเราอีก แล้วเจอกันใหม่ไว้ไปทานข้าวด้วยกันที่กรุงเทพอีกนะ
…….ช่วงบ่ายของวันนี้ผมติดต่อโทรหาเอกอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เอกปิดเครื่อง และอีกไม่นานผมจึงได้รับข่าวร้ายอย่างที่สุดที่ต้องเสียเพื่อนคนสำคัญของผมไปแล้ว ผมไม่ได้ไปทานข้าวกับมันที่กรุงเทพตามที่นัดกับมันอีกแล้ว
…….เอกเคยบอกกับผมว่า หากใช้ชีวิตอย่างดีแล้วในแต่ละวัน เมื่อถึงเวลาตายไม่เสียดายกับการตายแน่นอน มันคือคนที่พูดดี คิดดี ทำดี เสมอมา และผมเชื่อว่าที่ผ่านมาเอกใช้ชีวิตมาอย่างดีแน่นอน
……. “อย่างน้อยในความเศร้าครั้งนี้ก็ขอบคุณมึงมากที่มาหากู มาหาครอบครัวของกู ให้กูเลี้ยงข้าวมื้อสุดท้ายและให้กูได้พูดขอบคุณมึงซ้ำๆอีกครั้งสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา กูขอบคุณมึงจริงๆจากใจ และเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยที่ได้เป็นทั้งเพื่อน เป็นน้องชาย เป็นลูก และเป็นลูกศิษย์ของมึงนะ กูจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างดี ช่วยเหลือผู้คน ใช้ชีวิตอย่างที่มึงแนะนำ เผื่อที่เมื่อถึงวันตายของกูจะได้ไม่เสียดายในการใช้ชีวิต อย่างที่มึงเป็นแบบอย่างให้กูมาโดยตลอด แล้วเจอกันใหม่นะเพื่อนรักคนสำคัญของกู”
“สูญเสียอาลัยเศร้า เพื่อนรัก
ใจไม่ห่างจงประจักษ์ เพื่อนใกล้
แม้มึงจะพรากพรัก เพื่อนเอ๋ย เพียงกาย
ขอจงจำจดไว้ เพื่อนข้าฯ๕๒”
#หลับให้สบายนะเพื่อน
#ทรงพล บุญชัย (เพื่อนเอก)
#ประเทือง ชูเลิศ(เพื่อนจ็อบ)