เผยอาการล่าสุด พลทหาร ดิ่งตึกในค่าย เร่งเช็กวงจรปิด สั่งสอบหาสาเหตุ

เผยอาการล่าสุด พลทหาร ดิ่งตึกในค่าย ยังวิกฤต สั่งสอบข้อเท็จจริง แม่เล่านาทีช็อก เร่งมาโรงพยาบาล เฝ้าไม่ห่าง บอกข้างหูลูก “สู้ ๆ นะ แม่มาเยี่ยมแล้ว”

 

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความ ว่า “พี่กูโดดเพราะมึง” ซึ่งเหตุเกิดในค่ายทหารแห่งหนึ่งของ จ.ปราจีนบุรี ทำให้พลทหารที่โดดตึกอาการสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันที่ 22 มี.ค.2567 พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผบ.มทบ.12 ค่ายจักรพงษ์ พร้อมคณะนายทหาร เดินทางมาเยี่ยมอาการ พลทหารประกิจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุกระโดดจากตึกเรือนนอนอาการสาหัส เนื่องจากมีเลือดคลั่งในสมอง จนสมองบวม อาการน่าเป็นห่วงยังไม่รู้สึกตัว ที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน โรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ พร้อมกับ น.ส.ติ๋ม (ขอสงวนนามสกุล) แม่ผู้บาดเจ็บ พร้อมให้กำลังใจจะดูแลเต็มที่

ขณะที่เข้าเยี่ยมครั้งนี้เป็นครั้งแรกของแม่ที่ได้พบกับพลทหารประกิจ พร้อมเข้าไปบอกข้างหูของลูกว่าให้ “สู้ ๆ นะ แม่มาเยี่ยมแล้ว ขอให้ลูกปลอดภัยด้วย”

ทั้งนี้ พ.อ.อรรถสิทธิ์ บุญรัตน์ รอง ผอ.รพ.ค่ายจักรพงษ์ ได้รายงานให้ ผบ.มทบ.12 ทราบว่า อาการของพลทหารประกิจตอนนี้ทางแพทย์ให้ยาและดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เนื่องจากอาการยังน่าเป็นห่วง

พล.ต.ไพรัช กล่าวว่า วันนี้ทางผู้บังคับบัญชามาเยี่ยมหลังจากทราบข่าวตั้งแต่เมื่อคืนและเป็นห่วงวันนี้เช้าก็รีบมาเยี่ยม ขณะนี้อาการของพลทหารประกิจอยู่ในอาการทรงตัว มีเลือดออกในสมองบางส่วน แพทย์ได้ดูอาการ และทางเราจะช่วยกันดูแลให้การรักษาพยาบาลกับพลทหารอย่างดีที่สุด

พล.ต.ไพรัช กล่าวต่อว่า ได้พูดคุยกับทางญาติผู้ปกครองเราจะพยายามช่วยกันดูแลพลทหารประกิจให้ดีที่สุด ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้เรายังไม่ทราบปัญหาที่แท้จริงเป็นอย่างไร เราต้องสอบสวนหาสาเหตุที่พลทหารประกิจทำเช่นนี้เพราะอะไร เท่าที่ดูจากกล้องวงจรปิด เราจะรู้ถึงการปฏิบัติต่าง ๆ สามารถนำมาเป็นประจักษ์พยานได้

ด้าน น.ส.ติ๋ม กล่าวว่า ทราบข่าวลูกชายตอนเวลา 21.00 น. มีคนโทรไปบอกว่าลูกกระโดดตึก จากนั้นแม่ก็รีบมาแต่เยี่ยมไม่ได้ เยี่ยมวันนี้ได้ ส่วนสาเหตุก็ต้องรอลูกสาวมาก่อน เพราะเขาคุยกันกับพี่ เขากำลังเดินทางมา อยากให้ผู้บังคับบัญชามาฟังด้วย

พ.อ.อรรถสิทธิ์ แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า ขณะนี้อาการของพลทหารประกิจมีปัญหาเรื่องสมองบวมและมีเลือดคั่งในสมอง สมองช้ำน่าจะเกิดจากการกระทบกระเทือนตอนนี้อยู่ในช่วงระยะวิกฤต คนไข้ยังไม่รู้สึกตัว อาการชีพจรคงที่

พ.อ.อรรถสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นโยบายผู้บังคับบัญชาให้ดูแลเต็มที่สุดความสามารถ ในช่วงนี้ยังเป็นช่วงวิกฤตอยู่ ถ้าไม่มีอะไรแทรกซ้อนก็จะผ่านไปด้วยดี ก็ได้เรียนทางผู้บังคับบัญชาและคุณแม่น้องแล้วว่าโรงพยาบาลจะดูแลให้สุดความสามารถ