จากกรณีเพจมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ โพสต์คลิปวิดีโอเป็นภาพสุนัขสีขาวถูกจับมัดขาล่วมไว้กับเสาเหล็ก พร้อมข้อความระบุว่า
#ระทึกแต่เช้า_หมากัดไก่เจ้าของไก่ตีหมามัดไว้ขู่ฆ่าเรียกเงินห้าหมื่นบาท จันทร์เจ้า เป็นหมาไซบีเรียน อยู่บ้านโพธิ์ อำเภอเมือง กาฬสินธุ์ เช้านี้ ปีนรั้วออกไปกัดไก่ข้างบ้าน ซึ่งข้างบ้านเป็นคนที่ไม่ถูกกับใครเลย จึงทำร้ายหมาแล้วมัดแขนขาลากเอาไปขังไว้ ขู่จะฆ่าให้ตาย พร้อมเรียกเงิน 50,000 บาท พ่อไปขอร้องผู้ใหญ่บ้านช่วยเจรจา ลูกสาวประสาน WDT
WDT ประสาน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ส่งตำรวจเข้าระงับเหตุ ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์เร่งด่วน หมากัดไก่ ไปเรียกร้องเอาที่เจ้าของหมา และเรียกร้องตามมูลค่าอันสมควรเหมาะสม เพราะถ้าขึ้นศาล ศาลก็ไม่ให้เกินความจำเป็นหรอกนะครับ ทำร้ายหมา ฆ่าหมาเป็นทารุณกรรมสัตว์ และเป็นอาญาแผ่นดิน โทษจำคุกไม่เกินสองปีปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ! รอตำรวจเข้าป้องปรามและช่วยเจรจาให้เป็นไปตามเหตุผลอันสมควรครับ
ล่าสุดที่บ้านกลางดง หมู่ 10 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านเจ้าของสุนัข และได้พบกับ นายธวัชชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของสุนัข โดยนายธวัชชัยเล่าให้ฟังว่า สุนัขที่เห็นในคลิปชื่อว่า จันทร์เจ้า เป็นสุนัขเพศเมีย พันธุ์ไซบีเรียน เป็นของลูกสาว ซึ่งไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ตนเป็นคนเลี้ยงและเปรียบเหมือนเจ้าของ ทุกวันจะปิดประตูบ้านไว้ เพราะกลัวว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้มีทั้งหมด 3 ตัวจะออกไปข้างนอกไปกัดสัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้าน ซึ่งบ้านของตนก็มีรั้วรอบขอบชิด
นายธวัชชัยกล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุช่วงเช้าของวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา สุนัขของตนกระโดดข้ามกำแพงออกไป ก่อนที่จะมีคนมาบอกว่า สุนัขจันทร์เจ้าถูกจับมัดขาไว้กับเสา เพราะไปกัดเป็ดเพื่อนบ้านที่อยู่เยื้องกันตายหลายตัว ตนจึงรีบไปดูก็เห็นภาพสุนัขถูกจับมัดขา ลากมามัดไว้กับเสาหน้าบ้าน และยังขู่ว่าจะฆ่าสุนัขทิ้ง พร้อมกับให้เอาเงินมา 50,000 บาท เป็นค่าเสียหาย และแลกกับการปล่อยตัวสุนัข ซึ่งในตอนนั้นตนไม่มีเงิน และบอกว่าจะหามาจ่ายทีหลัง ขอให้ปล่อยสุนัขก่อน และด้วยความสงสารจึงได้โทรศัพท์ไปบอกลูกสาว ก่อนที่ลูกจะประสานไปยังมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ และตำรวจเข้ามาช่วยเจรจาก่อนจะยอมปล่อย และทราบว่าสุนัขของตนกัดเป็ดไป 34 ตัว ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุลูกสาวรีบพาสุนัขไปหาหมอ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขา
นายธวัชชัยกล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวตนยอมรับและเห็นใจเจ้าของเป็ด แต่ตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเหมือนกัน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วตนก็พร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหาย แต่ต้องชดใช้ตามความเหมาะสมหรือตามมูลค่าความเสียหายจริง แต่ไม่ใช่จะไปทำกับสุนัขแบบนี้ และเรียกเงินมากถึง 5 หมื่นบาท ตนมองว่ามันแพงเกินไป ซึ่งทราบว่าทางฝั่งนั้นได้แจ้งความและยืนยันเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งตนก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะชดใช้ แต่ต้องชดใช้ตามความเหมาะสม
ทางด้าน นางสถิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเป็ด ชาวบ้านกลางดง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดย นางสถิตยืนยันว่า วันเกิดเหตุไม่มีใครลากหรือทำร้ายสุนัข เพียงแต่ช่วยกันจับตัวไว้เพราะกำลังไล่กัดเป็ดในเล้าตายไปกว่า 200 ตัว ก่อนจะเอาขึ้นรถจักรยานยนต์และมัดขาไว้ผูกกับเสาไว้ เพราะสุนัขกัดคนด้วย จากนั้นจึงไปเรียกเจ้าของสุนัขมาพุดคุย
นางสถิตย์กล่าวว่า วันเกิดเหตุช่วงเช้ามืดคนงานได้ยินเสียงเป็ดในเล้าที่เลี้ยงไว้ร้องจึงวิ่งไปดูก็พบว่ามีสุนัข 2 ตัวของนายธวัชชัยกำลังไล่กัดเป็ดตายจำนวนมาก จึงช่วยกันจับตัวสีขาวไว้ได้ ก่อนจะเอาขึ้นรถจักรยานยนต์พร้อมกับแจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้มาดู แต่สุนัขกลับกัดที่แขนของสามี จึงต้องมัดขาและผูกกับเสาไว้ พร้อมกับไปเรียกเจ้าของสุนัขมาคุย
ซึ่งทันทีที่นายธวัชชัย เจ้าของสุนัขมาถึงก็ไม่ได้สนใจหรือถามเรื่องความเสียหายเลย แต่กลับเอาโทรศัพท์ถ่ายคลิปทันที พร้อมกับแจ้งไปยังมูลนิธิวอชด็อกเลย และยังขู่ด้วยว่าจะเอาให้ติดคุก โดยที่ไม่ถามไถ่ความเสียหายเลยสักคำ ทั้งๆ ที่เราเป็นผู้เสียหาย แถมยังจะไปเรียกคนนั้นคนนี้มาคุย ตนจึงบอกไปว่าไม่ต้องเรียกมาตนเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท เพราะเป็ดตาย 200 ตัว
นางสถิตย์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าวันเกิดเหตุไม่มีใครลาก หรือทำร้ายสุนัข เพียงแต่จับมัดไว้เท่านั้น ซึ่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้ เพราะหลังจากปล่อยก็ลุกวิ่งตามเจ้าของไป อีกทั้งตนและครอบครัวก็เป็นคนรักสัตว์ ที่บ้านก็เลี้ยงสุนัข ลูกสาวยังเป็นสมาชิกของมูลนิธิวอชด็อก จึงอยากขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิวอชด็อกด้วยก่อนลงข่าว หรือรายละเอียด ก็ควรสอบถามทั้งสองฝ่าย เพื่อความเป็นธรรม ไม่ใช่ลงข้อมูลฝ่ายเดียว จนตนและครอบครัวถูกด่าและถูกเข้าใจผิด
อีกทั้งหากเจ้าของเลี้ยงดูแลสุนัขของตนเองดี ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ซึ่งเท่าที่ทราบยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายคนที่เป็ดและไก่ถูกกัดตาย ซึ่งต้องนึกถึงตรงนี้ด้วย ทั้งหลังจากนี้ตนก็ยืนยันที่จะเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท เพราะเป็ดเราก็เลี้ยงไว้ในเล้า และกว่าจะเลี้ยงโตมาได้เสียค่าใช้จ่ายไปไม่น้อย แต่กลับมาถูกกัดตายมากถึง 200 ตัว
นางไข (สงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี ชาวบ้านกลางดง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เป็ดพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และลูกเป็ดของตนก็ถูกสุนัขตัวนี้บุกเข้ามากัดตาย ซึ่งตอนนั้นได้ค่าเสียหายเพียง 800 บาท เพราะสามารถจับตัวสุนัขได้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมานกกระทากว่า 300 ตัว และไก่งวงของลูกชาย ก็ยังถูกสุนัขกัดตายไปจำนวนมากด้วย แต่ไม่เห็นตัวสุนัขที่กัดจึงไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ แต่คาดว่าน่าจะเป็นสุนัขกลุ่มนี้ จึงอยากฝากถึงเจ้าของให้ช่วยดูแลให้ดีๆ อย่าปล่อยให้หลุดมาสร้างความเดือดร้อนกับใครอีก เพราะสัตว์เลี้ยงทั้งเป็ด ไก่ และนกที่เลี้ยงไว้ของใคร ใครก็รัก และอยากขายสร้างรายได้