หนูเล็ก โพสต์อีกครั้งหลังลูกจมน้ำ เผยสิ่งเดียวที่รับไม่ได้

หนูเล็ก โพสต์อีกครั้งหลังลูกจมน้ำ เผยสิ่งเดียวที่รับไม่ได้

เรียกได้ว่าทำเอาแฟนคลับเข้ามาคอมเม้นต์กันสนั่นเมื่อหนูเล็กก่อนบ่าย ได้โพสต์คลิปลูกชายเรียนว่ายน้ำเมื่อเดือน พ.ค.66 ปีที่แล้ว แต่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสะเทือนใจหัวอกคนเป็นแม่มากๆ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม หนูเล็ก ก่อนบ่าย ได้ออกมาโพสต์คลิป พร้อมระบุข้อความว่า ขอความคิดเห็นพี่น้องและป้าๆของน้องวินทุกคนนะคะ ว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากความประมาทของครูผู้สอน หรือเกิดจากน้องวินเป็นคนใช้ให้ครูผู้สอนช่วยไปหยิบบอลที่ปา ไปนะคะ #จะเล่าให้ฟัง คือเมื่อ ช่วงพ.ค 2566 ได้ลง คอร์สเรียน ว้ายน้ำไว้กับครูคนนึงนะคะ นัดมาเรียนในหมู่บ้าน แม่ก็จะคอยเฝ่า แอบๆ แต่เวลาวินเห็นแม่วินก็จะไม่เรียน เลยฝากครูไว้และแม่แอบหลังต้นไม้บ้าน บางทีเดินกลับบ้านบ้าง ถึงเวลาก็มารับ (เพราะจ้างมาสอนตัวต่อตัวน่าจะฝากได้) และในคลิปคือ 9หรือ8 พค2566 (จำไม่ได้ชัด )วินเรียนว่ายน้ำ แม่กำลังมารับ รีบวิ่งได้ยินลูกร้อง ถามครูเกิดอะไรขึ้น ครูบอกว่าวินโยนหมวกครู ลงสระใหญ่

และครูจะลงไปเอา แต่วินก็โยนบอลไปอีกฝั่งที่ไม่ใช่น้ำ และบอกให้ครูช่วยไปหยิบบอลให้หน่อย ครูบอกวินลงไปเอาหมวก และลืมว่าไม่ได้ใส่ชูชีพ ตกใจ ไม่ได้จมน้ำอะไร และครูก็เฉยๆและครูกลับ แต่เราไม่เชื่อใจสักเท่าไรเพราะวินบอกว่าวินจมน้ำ กินน้ำ สำลักน้ำ แม่เลยขอหมู่บ้านดูกล้องหน่อย และที่เห็นก็ตกใจ ตัวสั่น มือสั่นร้องให้ รับไม่ได้กลัวลูกตายเหมือนในข่าว และโกรธที่ครูไม่บอกว่าจมน้ำ บอกว่าแค่ตกใจ และครูไม่มีถามไม่ขอโทษ ไม่รู้สึกอะไรเลย นิ่งเฉย

อีกวันสองวันเค้าทักมาทวงค่าเรียน เราเลยส่งคลิปไปให้เค้า ว่าวินจมน้ำนะ ทำไมครูบอกไม่จม เค้าถึงจะพิมมาบอกขอโทษจะไม่ทำให้เกิดขึ้นอีก แปลกใจทำไมไม่ขอโทษตั้งแต่วันที่จม ทำไมเฉย และก็ส่งมาว่าติดงานยาว เราเลยโอเคไม่เรียนแล้วค่ะ และก็เงียบเพราะอยากดูแลความรู้สึกลูกก่อนที่จะโวยวาย เวลาผ่านไปก็ช่างมันไม่เอาความอะไรกับครูแบบนั้นก็แค่หาคนใหม่ จนล่าสุดที่โรงเรียนวินถามวินเป็นอะไรทำไมไม่ชอบเรียนว่ายน้ำแล้ว วินร้องไห้ วินจะใส่แต่ชูชีพอย่างเดียว เกิดอะไรขึ้น เวลาผ่านไปจะครบปี

แม่คิดว่าวินจะหายสะเทือนใจแล้วแต่สรุปว่ามันฝังใจลูกไปเลย เป็นปมไปเลย เลยทักไปบอกครูแย่คนนั้น และคำตอบที่ได้คือ ถ้าคิดว่าครูผิดฝ่ายเดียวก็ไม่มีอะไรจะพูด อี….เอ้ยยยยย ทั้งหมดคือความจริง แต่อยากขอความเห็นจากทุกคน ว่าเกิดจากอะไร ความประมาทของครู หรือเกิดจากความผิดของวินที่โยนของเล่นและลงไปเอาหมวกเอง ถ้าเกิดจากความผิดวิน เราจะได้ไปกราบขอโทษครูเค้าที่เราไปเลือกไว้ใจครูแบบนี้ให้สอนลูกเรา ขอความคิดเห็นด้วยค่ะ เพราะคิดคนเดียวเดี่ยวจะเข้าข้างตัวเอง

ล่าสุดทางด้านหนูเล็ก โพสต์อินสตราแกรมส่วนตัว @nulek_gaga พูดถึงประเด็นนี้อีกครั้ง บอกว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณคุณครู… ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่น่ารักมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในไลฟ์สดวันนี้ อย่างเป็นกลางพูดแค่จรรยาบรรณของครูไม่พูดถึงคนอื่น

และทำให้หนูเข้าใจแล้วว่าจรรยาบรรณของครูเป็นยังไงบ้าง

ขอบคุณพี่น้อง ทุกคนที่เสนอความคิดเห็นกันมาทุกๆท่าน หนูรับไว้และปรับปรุง เพราะมันเป็นความตั้งใจของหนูที่อยากเห็นความคิดเห็นจากคนอื่นด้วยไม่ใช่แค่จากตัวเอง

เพราะประเด็นคือไม่พอใจที่ครูเถียงทุกคำ และไม่รู้สึกใดใดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังบอกว่ามันหมดเวลาเรียนแล้วคือถ้าเลยเวลาไปคือคุณจะไม่ดูแลและไม่รับผิดชอบเด็กแล้วใช่มั้ย อันนี้งง

(แต่กล้าพูดได้ว่าไม่เคยไปสายเพราะบ้านเราอยู่ตรงนั้นถ้าสายจริงทำไมครูไม่โทรหา ให้มารับ ) ได้ยินเสียงลูกร้องเราก็รีบวิ่งเลย สุดท้ายใช้คำพูดว่า #ถ้าคิดว่าครูผิดฝ่ายเดียวก็จะไม่ขอชี้แจงอะไร

ซึ่งคำนี้ มีเจตนาให้แม่เข้าใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเด็ก

เลยต้องขอความคิดเห็นจากทุกๆคนและตอนนี้หนูได้คำตอบแล้ว

แต่หนูยังไม่ได้คำตอบจากฝั่งคุณครูผู้สอน เพราะเค้าเถียงอย่างเดียวและเป็นความคิดเห็นเขาเพียงคนเดียว ว่าเค้าไม่ได้ประมาท

เพราะหนูบอกให้เค้าไปหาคำตอบมาไม่ใช่คิดแค่คนเดียวไปถาม ผอ. หรือเพื่อนร่วมงาน หรือคุณครูในโรงเรียนที่สอนอยู่ มาตอบหน่อยว่า เหตุการณ์นี้ครูประมาทหรือเปล่า หรือมีความคิดเห็นอย่างไร ให้บอกมาค่ะ

ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะถ้าติดใจคงโพสต์ตั้งแต่เดือนพฤษภาแล้ว

แต่โทษเด็กอย่างเดียวอันนี้รับไม่ได้ เพราะเราจ้างคุณมาสอน #ตัวต่อตัว และคุณครูบอกเองว่า ถ้าคุณแม่อยู่ลูกไม่ตั้งใจเรียนคุณแม่กลับได้เลย คุณครูดูแลให้เต็มที่ เพราะจ้างมา #ตัวต่อตัว แต่แม่ก็ไม่ได้ไปไหนแอบอยู่ใกล้ๆ ค่ะ

ส่วนพี่พี่คนไหนที่คอมเม้นต์ไม่ได้สร้างสรรค์หรือไม่ได้แสดงความคิดเห็นที่ดี หรือฟังไม่จบ ฟังไม่ครบ หาว่าเด็กดื้อ เด็กเยอะ พ่อแม่ทำไมไม่ดูลูก หลายๆคอมเม้น ก็เข้าไปฟังในไลฟ์สดล่าสุดได้เลยค่ะ ทุกอย่างคือเรื่องจริงที่คุณครูเล่าตอนวันเกิดเหตุ จะได้เข้าใจค่ะ

สรุปคือรอความคิดเห็นจาก ผอ หรือครูเพื่อนร่วมงาน ที่คุณครูสอนอยู่นะคะ ว่าความเห็นเป็นอย่างไร จะได้เข้าใจตรงกัน และไม่ฟังแค่ข้างเดียว ค่ะ”