นับเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องสูญเสียบุคคลากรคนสำคัญอย่าง นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อาจารย์แพทย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก
ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” ที่ต้องต่อสู้กับโรคต่อสู้กับโรคร้ายอย่างไม่ย่อท้อ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณหมอกฤตไท ได้แบ่งปันเรื่องราวชีวิตที่พลิกพันเป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4 พร้อมสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของชีวิต จนเป็นแรงบรรดาลใจให้กับหลายคน
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพ.ย. 2565 ชีวิตหมอกฤตไท ในวัย 28 ปีที่เพิ่งบรรจุเป็นอาจารย์แพทย์ได้ 2 เดือน กำลังวิ่งตามความฝันอย่างเต็มที่
วางแผนในอนาคตอย่างงดงาม แต่แล้วคุณหมอก็พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งปอดในระยะสุดท้าย
ตั้งแต่นั้นมาคุณหมอกฤตไท ก็ตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตัวเองไม่สูบบุหรี่และชอบออกกำลังกาย พร้อมเปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อ “สู้ดิวะ” เพื่อแชร์เรื่องราวการต่อสู้โรคร้าย
ในปลายเดือนพ.ย. 2565 คุณหมอได้อัปเดตอาการว่าตัวเองยังใช้ชีวิตประจำวันได้แทบตามปกติ และเล่าประสบการณ์ที่เข้ารับการเคมีบำบัด จนมีการแชร์เรื่องราวและเข้าไปให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเดือนต้นมี.ค. 2566 เป็นช่วงที่จ.เชียงใหม่ประสบปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 คุณหมอกฤตไท ได้โพสต์ข้อความตั้งคำถามว่า
ฝุ่นควันในเชียงใหม่อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณหมอป่วยเป็นมะเร็งปอด พร้อมสะท้อนถึงปัญหาฝุ่นPM 2.5 และเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อให้ผู้คนในประเทศมีอากาศสะอาดและสุขภาพแข็งแรง
จากข้อความดังกล่าวเป็นแรงกระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงภัยของฝุ่น PM.25 จนเกิดกระแสกดดันให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเป็นการด่วน
ในเดือนก.ย. 2566 คุณหมอก็โพสต์อัปเดตอาการป่วย และระบุว่ากำลังเขียนหนังสือ “สู้ดิวะ” เล่าเรื่องราวต่างๆของชีวิต จนปลายเดือนก.ย.ก็ตีพิมพ์และวางจัดจำหน่ายจนยอดจองถล่มทลายสั่งซื้อจนหมดเกลี้ยง
หลังจากนั้นในเดือนต.ค. คุณหมอกฤตไท อาการไม่ค่อยดีขึ้นมะเร็งลุกลามไปทั่วร่างกาย ต้องเข้ารับการรักษาเป็นการด่วน โดยผู้ติดตาม เพจ “สู้ดิวะ” ต่างก็เข้ามาโพสต์ให้กำลังใจ
ต่อมาในเดือนพ.ย. 2566 มีการเผยแพร่คลิปคุณหมอกฤตไทเข้าพิธีวิวาห์กับคนรัก ซึ่งคุณพีม ภรรยาก็ได้เผยความรู้สึกที่มีต่อหมอไททำเอาคนที่ได้ฟังถึงกับกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่กันเลยทีเดียว
ในเดือนเดียวกัน คุณหมอกฤตไท ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ ผมคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ใครมีอะไรอยากพูดอยากบอกผมเชิญได้เลย
ผมน่าจะไปช่วงกลางเดือนหน้า จากนั้นไว้เจอกันใหม่นะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ขอโทษถ้าผมทำให้ใครไม่พอใจ” แต่เมื่อเพื่อนและผู้ติดตามเฟซบุ๊กของคุณหมอ ได้เห็นข้อความ ต่างก็ส่งข้อความให้กำลังใจ
และ ในการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจตุรมิตรสามัคคี เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา นักเรียนสวนกุหลาบได้ต่างพร้องใจแปรอักษร
เป็นกำลังใจหมอกฤตไท มีใจความว่า “ ด้วยความรักจากน้องนักเรียนสวนกุหลาบเพื่อพี่หมอกฤตไท”
จนสุดท้ายเมื่อเวลา 10.59 น.วันที่ 5 ธ.ค. 2566 หมอกฤตไทก็จากไปอย่างสงบ