เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ก.พ.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6 พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ จุติวรกุล รอง ผกก. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.6
ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวัฒนา หรือป๊อป (ขอทราบนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว จ.ลพบุรี พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 10 ล้านเม็ด บรรจุในกระสอบสีขาว 50 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ท้ายรถกระบะตู้ทึบ ทะเบียน 2 ฒฮ 6841 กรุงเทพมหานคร และ วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 60 กิโลกรัม ตรวจยึดตามบ้านแห่งหนึ่ง ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนเทพารักษ์ อ.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พ.ย.66 ชุดสืบสวน บก.น.6 ได้ทำการขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดย่านพุทธมณฑล โดยจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือนายต้นฯ และนายณรงค์เกียรติฯ พร้อมของกลางยาบ้า 3 ล้านเม็ดยาไอซ์ 24 กิโลกรัม และยาอี 9,000 เม็ด จึงทำการขยายผลโดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รับสารภาพว่ายาเสพติดดังกล่าวรับมาจากเครือข่ายยาเสพติดย่านบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนเข้าสะกดรอยใช้เวลา กว่า 2 เดือนจนทราบแหล่งเก็บยาเสพติด
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวต่อว่า ต่อมา เมื่อวันที่ 7 ก.พ.67 เวลาประมาณตี 3 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.6 จึงสะกดรอยติดตามผู้ต้องหา ขณะไปรับยาเสพติด ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งติดตามมาจับกุมตัวได้ ที่บริเวณริมถนนเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ บริเวณท้ายรถกระบะตู้ทึบ
จากนั้นจึงนำตัวไปขยายผลที่บ้านเช่าแห่งจ 5 อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พบยาเคตามีนจำนวน 60 กิโลกรัมซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวใช้เป็นสถานที่เก็บยาเสพติด โดยการจับกุมครั้งนี้ต่อเนื่องจากการขยายผล เป็นครั้งที่ 5 ต่อเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.6 สั่งซื้อยาเสพติดทางออนไลน์ แอปฯ X และขยายจับกุมอีก 4 ครั้ง 3 เครือข่าย รวมเวลา 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.66 กระทั่งมาถึงการจับกุมครั้งนี้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่า ตนมีหน้าที่รับคำสั่งให้ไปรับยาเสพติดตามสถานที่ต่างๆ และจะนำมาเก็บไว้เพื่อรอคำสั่งให้แก่ลูกค้าที่มารับในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยมีผู้สั่งการผ่านแอปฯ ไลน์ชื่อว่า DEVILL โดยตนได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 120,000 บาท ส่วนเงินที่ได้จะนำมาใช้จ่ายภายในครอบครัวและรักษาพ่อที่ป่วย
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่าเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 2 คดี ปี พ.ศ.2557 และ ปี 2564 และครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด 1 คดี (ปี พ.ศ.2562 ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน)
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าฯ และ จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนข้อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าฯ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อขยายผล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวโดย ทีมข่าวกรุงเทพมหานคร