จากกรณี น.ส.อรทัย โพสีงาม ภรรยาชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับเงินมรดกจากสามีที่เสียชีวิตไปเมื่อปี พ.ศ.2564 เป็นเงิน 13 ล้านบาทไทย ภายหลังแต่งงานใหม่กับชายชาวสวิตเซอร์แลนด์อีกคนก่อนจะย้ายมาอยู่ประเทศไทย ที่บ้านโคกแขวน หมู่ที่ 5 ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้ประมาณ 2 ปีเศษ จู่ ๆ ได้หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.67 ที่ผ่านมา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค. 2567 น.ส.ธิดารัตน์ น้องสาวของ น.ส.อรทัย เผยว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 26 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา มีโทรศัพท์จากป้าที่เคยอยู่ใกล้บ้าน แต่ย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพนานมากแล้ว ซึ่งไม่เคยติดต่อมาเลย ได้โทรมาบอกว่า ลูกสาวถูกวิญญาณของ น.ส.อรทัย เข้าสิง ก่อนจะบอกหมายเลขโทรศัพท์ของแม่ (แม่ น.ส.อรทัย) เพื่อให้ช่วยติดต่อญาติพี่น้องให้ช่วยงมเอาร่างของตนเองที่อยู่ภายในสระน้ำใกล้กับจุดที่พบจยย.จอดเอาไว้ขึ้นมาจากน้ำ
โดยน้ำเสียงปลายสายที่โทรมานั้น เหมือนกับเสียงของ น.ส.อรทัย พี่สาวของตนเองมาก ร้องให้ช่วยเอาตัวเองขึ้นจากสระน้ำ และบอกอีกว่า มันเอาพี่ใส่ถุงดำมาทิ้งเอาไว้ ช่วยพี่ด้วยพี่หนาว ตนจึงประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำมูลนิธิพุทธธรรม ฮุก 31 นครราชสีมา ประจำจุดอำเภอครบุรีและอำเภอเสิงสาง นำกำลังนักประดาน้ำมางมหาร่างภายในสระน้ำ ที่ห่างจากบ้านพักไป 2 กิโลเมตร และเป็นจุดเดียวกับที่พบจยย.ของพี่สาว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงลงงมหา แต่ก็ไม่พบสิ่งใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ น.ส.อรทัย แต่อย่างใด จึงได้ตัดสินใจยุติการค้นหา ขณะที่ทางญาติยังปักใจเชื่อว่าเสียงที่โทรมานั้นเป็นเสียงของ น.ส.อรทัย อย่างแน่นอน จากนี้จะได้ประสานเจ้าของสระน้ำในละแวกดังกล่าว เพื่อขอสูบสระน้ำตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งต่อไป