ผัว-เมียใจสลาย ร้องเพจดัง รพ.ปล่อยลูกวัย 3 เดือนรอรักษานานเกือบ 8 ชม. สุดท้ายหัวใจช็อกรุนแรงเสียชีวิต ข้องใจปล่อยรอนาน แพทย์วินิจฉัยผิดพลาด
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 ม.ค.2567 ที่วัดไทรใหญ่ จ.นนทบุรี นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว เดินทางเข้าพบ น.ส.วารินทร์ อายุ 36 ปี และนายเอกรินทร์ อายุ 36 ปี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีพาลูกสาว วัย 3 เดือน ไปรักษาอาการหายใจผิดปกติและไม่กินนมที่รพ. แล้วลูกเสียชีวิต โดยระบุรอการรักษานานกว่า 8 ชั่วโมง รวมทั้งการวินิจฉัยโรคผิดพลาด
น.ส.วารินทร์ เปิดเผยว่า วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 18.30 น. น้องเมล์ ลูกสาวมีอาการผิดปกติ กินนมได้น้อยลงแต่กินนานผิดปกติ ลักษณะดูดและปล่อย จึงพาน้องไปรักษาที่รพ.แห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง แพทย์แจ้งว่าน้องท้องอืดให้ยาและให้พากลับบ้านได้ แต่ตนแจ้งแพทย์ว่าลูกหายใจแรงจนใต้ซีโครงยุบผิดปกติ แพทย์จึงบอกว่ารพ.ตรวจละเอียดไม่ได้เพราะไม่มีประวัติเด็ก ถ้าต้องการตรวจให้ละเอียดให้พาไปพบแพทย์ที่รพ.ชื่อดังใน จ.นนทบุรี จึงพาลูกกลับบ้านเพราะเห็นว่าเป็นช่วงเย็นแล้วถึงไปรพ.นั้นก็ไม่มีหมอรักษา
“จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 10 ม.ค. น้องมีอาการหายใจแรงมากขึ้นและไม่ยอมกินนมตั้งแต่ 4 ทุ่มสามีจึงให้รีบพาน้องไปรพ.ชื่อดัง ในจ.นนทบุรี ไปถึงตั้งแต่เวลา 10.30 น. ขณะรอเรียกคิวพบแพทย์ลูกเริ่มแย่ลง จึงขอร้องพยาบาลช่วยลัดคิวแต่ก็ถูกปฎิเสธ สุดท้ายต้องรอถึงเวลา 17.00 น. ถึงจะได้พบแพทย์และตรวจแล้วแจ้งว่าลูกปกติ วินิจฉัยว่าลูกเป็นโคลิคจะให้รับยาแล้วกลับบ้าน แล้วยังวินิจฉัยว่าตัวแม่มีอาการซึมเศร้าหลังคลอด ”
น.ส.วารินทร์ เล่าต่อว่า แต่ตนทักทวงแพทย์เพราะลูกเริ่มหายใจลำบากจนท้องบุ๋ม แพทย์จึงให้ตนกับลูกคอยเวรเปลอีก 1 ชั่วโมง กว่าได้จะรับการตรวจรักษาที่แท้จริง จนสุดท้ายเวลา 21.00 น. มือและเท้าของลูกเริ่มเป็นสีม่วงถูกส่งเข้าไอซียู ผลเอ็กซ์เรย์ออกปรากฏว่าน้องหัวใจโต แพทย์แจ้งต้องทำการผ่าตัด และต้องรอหมอเฉพาะทางเท่านั้น แพทย์ยังบอกว่าลูกจะหายได้ต้องพึ่งปาฎิหารย์ด้วยการเปลี่ยนหัวใจเท่านั้น จนกระทั่งเวลา 02.00 น. วันที่ 11 ม.ค. ลูกหัวใจล้มเหลวจนต้องปั๊มหัว แต่สุดท้ายก็เสียชีวิต
” ตอนนี้ครอบครัวติดใจเรื่องระยะเวลาในการรอพบแพทย์ ทั้งๆที่ลูกมีอาการหายใจแรงจนซี่โครงบุ๋ม แต่กลับให้รอตรวจรักษานานเกินไปสำหรับเด็กวัย 3 เดือน มารพ.ตั้งแต่เวลา 11 โมง กว่าจะได้พบหมอเกือบ 6 โมงเย็น แถมยังวินิจฉัยโรคผิดพลาดอีกจนสูญเสียลูกไป ไม่มีแม้แต่คำขอโทษจากรพ.สักคำ ”
ด้านนายอธิวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับข้อมูลจากแม่เด็กว่าการรักษาล่าช้าหลายชั่วโมงทำให้เด็กเสียชีวิต ขั้นตอนต่อไปจะพาแม่เด็กไปที่ร้องเรียนยังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ รวมทั้งแพทย์สภาที่จะต้องเข้ามาดูแลรับผิดชอบ อยากให้ระบบการแพทย์หรือกระทรวงสาธารณสุข ปรับปรุงเกี่ยวกับรพ.ของรัฐ รมว.สาธารณสุข ต้องลงมากำกับดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายสัมฤทธิ์ ด้วงโสน นายกเทศบาลตำบลไทรน้อย ดินทางมาเป็นประธานพิธีฌาปณกิจ น้องเมล์ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะ น.ส.วารินทร์ ผู้เป็นแม่ปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจแทบขาดใจ