เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (28 ธ.ค. 2566) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกคลื่นซัดจมทะเล บริเวณสะพานท่าเทียบเรือสะพลี หมู่ 5 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นสะพานท่าเทียบเรือประมง และเป็นจุดชมวิวแหล่งท่องเที่ยวสวยงามมีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านมุงดูจำนวนมาก ทะเลมีคลื่นลมแรง หน่วยกู้ภัย นักประดาน้ำ ต้องใช้เชือกมัดโรยตัวลงไปดำค้นหา โดยมี นางเจนจิรา อายุ 43 ปี ผู้เป็นแม่นั่งร่ำไห้รอลูกชายอยู่ที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่าผู้สูญหาย คือ นายปรมี อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนศรียาภัย จ.ชุมพร ก่อนเกิดเหตุตอนเช้านายปรมีได้ไปทำกิจกรรมที่โรงเรียน จากนั้นช่วงบ่ายเลิกทำกิจกรรม นายปรมีได้ขับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ออกจากโรงเรียน ไปตรวจสภาพเพื่อใช้ต่อทะเบียน หลังตรวจสภาพรถยนต์เสร็จได้ขับรถตามเพื่อน ๆ ที่เป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกันกับเพื่อนนักเรียนต่างสถาบัน และเพื่อนรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว รวม 4 คน ที่ไปเล่นน้ำทะเลอยู่ที่สะพานท่าเทียบเรือสะพลีอยู่ก่อนแล้ว
ขณะที่เพื่อน ๆ กระโดดเล่นน้ำทะเลอยู่ใต้สะพาน แต่นายปรมีได้กระโดดออกไปเล่นน้ำไกลจากสะพานมาก ทำให้คลื่นลมที่กำลังพัดกรรโชกแรง ซัดพาตัวนายปรมีออกไปในทะเลลึก เพื่อน ๆ ที่เห็นได้พยายามโยนเชือกให้ และออกไปช่วยเหลือ แต่ถูกคลื่นซัดไปคนละทิศละทาง จนนายปรมีจมหายไป ส่วนเพื่อน ๆ พยายามว่ายเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย
โดยนายธีระพล อายุ 17 ปี กล่าวว่า ตอนแรกพวกตนมากันก่อน 3 คน กระโดดน้ำเล่นใกล้ ๆ ใต้สะพาน ต่อมานายปรมีขับรถตามมาเล่นด้วย แต่กระโดดออกไปไกลจากสะพานมากเกินไปทำให้ลม บวกกับคลื่นที่แรงซัดออกไปไกล เพื่อน ๆ พยายามช่วยเต็มที่แล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้ จากนั้นนายปรมีก็จมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา
ในขณะที่ นายภูเศวร์ อายุ 19 ปี กล่าวว่า ขณะเล่นน้ำเห็นนายปรมีถูกคลื่นซัดออกไปไกลจนอ่อนแรง ตนจึงได้ใส่เสื้อชูชีพว่ายออกไปช่วย และพยุงตัวให้เกาะหลังตน เพื่อจะพาเข้าฝั่ง แต่ประกฎว่าคลื่นและลมที่โหมซัดมาอย่างแรง ได้ซัดเพื่อนตนหลุดหายไป ส่วนตนพยายามว่ายเข้าฝั่งมาได้อย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ทางด้านหน่วยกู้ภัย นักประดาน้ำได้พยายามจนกระทั่งเย็น แต่เนื่องจากสภาพอากาศช่วงเย็น และยามค่ำคืนทัศนวิสัยไม่ดี ทะเลมีคลื่นลมกรรโชกแรง จึงได้ยุติการค้นหา และจะวางแผนออกค้นหาใหม่ต่อไป