ส่อคดีพลิก “บอสบิ๊ก” โต้เดือด หลังแม่โผล่ร้องสื่อ ปมรถตู้ชนจยย.

 วันที่ 24 มิถุนายน 2568 กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อคุณแม่ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุออกมาร้องเรียนผ่านสื่อว่า “ไม่ได้รับการเยียวยาใด ๆ” จากฝั่งของ “บอสบิ๊ก” หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” จนกลายเป็นข่าวโด่งดังในช่วงเช้า  (23 มิถุนายน 2568)

 โดยทางด้านเพจดังอย่าง อรรถรส ได้โพสต์สรุปใจความจากไลฟ์ไว้ว่า บอสบิ๊กออกมาเล่าเหตุการณ์ บอกว่า “มันมีรถมอไซต์ ขับแซงมา แล้วไปชนรถคันข้างหน้า แล้วก็กระเด็นมาหน้ารถ รถของบอสก็เลยชะลอ  แล้วรถคู่กรณี ก็ขี่มาชน แล้วก็กระเด็น” 

บอสบิ๊ก บอกว่า มันเป็นการรวมตัวกันของแก๊ง ขี่มอไซต์แบบ นอนขับมา  และตัวรถ คือ ไม่มีถูกกฏหมายเลย ดัดแปลงทุกคัน  ไม่มีใบขับขี่ หมวกกันน็อคก็ไม่ใส่ ขับรถด้วยความเร็วสูง อายุไม่ถึง ขับมอไซต์ได้อย่างไร แล้วทำไมถึงไปออกรายการทีวี จะมาแฉเรื่องอะไร ตลก แต่อย่างไรก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆ เราก็ส่งตัวแทน และคนขับรถไปเยียวยาทางจิตใจไปไหว้ ไปงานศพ ไปวันเผา

แต่ว่าเรื่องคดีความมันอยู่ในชั้นศาล ซึ่งศาลเขายังไม่ตัดสิน ทางเราเสียหายด้วยซ้ำ รถของเราก็ไม่ได้ใช้ ไม่ได้ใช้รถเกือบ 3 เดือน เอารถไปจอดไว้ที่โรงพัก ไม่ได้จอดไว้ที่บ้านนะ และเราเพิ่งไปทำเรื่องเอารถออกมา เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เอง ชึ่งเราถามตำรวจแล้วว่า เก็บหลักฐานครบแล้วหรือยัง จนทางตำรวจบอกเรียบร้อย เราจึงเอารถออกมา และเอารถไปซ่อม

ส่วนประเด็นเรื่องที่ไม่เยียวยา คือ ศาลยังไม่ตัดสินด้วยซ้ำ ทางฝั่งบอสบิ๊กบอกว่า ทางนัตตี้ (คนขับ) ก็คุยกับคุณแม่ ก็ยังไปเจอกันที่โรงพัก ไม่เคยขาดการติดต่อ และคนที่โทรตอนแรก ไม่ใช่แม่ เป็นญาติด้วย ที่โทรมาสอบถามเหตุการณ์ แต่ทำไมแม่ถึงไปโผล่ทางทีวี คือ คุณต้องการอะไร “เจ้าอย่าสิเป็น ลูกฉันเป็นคนดีคักหลาย” ผิดก็ว่าไปตามผิด ให้กฏหมายว่ากันเลย ต่อให้วันนี้ผมไปออกรายการโหนกระแส มันก็ไม่จบเหมือนเดิม เพราะมันอยู่ที่ศาลท่านตัดสิน 

คุณจะมาเรียกร้องอะไรฉัน อันดับแรกฉันเป็นเจ้านายก็จริง แต่ในคดีความ ฉันไม่ได้เป็นคนขับ ประกันรถของฉันเขาพร้อมจ่ายอยู่แล้ว ชึ่งประกันเห็นข่าวก็ไม่ยอม และเขาก็จะฟ้อง ถามว่า บริษัทเสียหายไหม เสียหาย เสียหายมาก ก็ให้มันเป็นเรื่องทางกฏหมาย ก็ต้องมีการดำเนินตามกฏหมายค่าชื่อเสียง

นอกจากนี้ “บอสบิ๊ก” ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ก็ยังได้เคลื่อนไหวผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว “ส่งกำลังใจให้โซเฟอร์ นัทตี้นะครับ บอกเลย นางเสียขวัญมาก ที่มาเจอเรื่องแบบนี้.. แต่ก้อปลอบใจนางแล้ว คือถ้าคิดว่า *เราไม่ผิดคือไม่ผิดคะ ว่าไปตามกฏหมาย* นะคะ… และคนตัดสินคือท่านตำรวจ และผู้พิพากษา”

ขอบคุณข้อมูลจาก อรรถรส,Thitiwut Varoon