แรงจูงใจ? ศาลสรุปเหตุผล “ลุงพล” พา “น้องชมพู่” ขึ้นไปภูเหล็กไฟ : จาก “คดีน้องชมพู่” เด็กหญิง 3 ขวบ แห่งบ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ที่พบร่างนอนเสียชีวิตอยู่บนเขาภูเหล็กไฟ เมื่อช่วงกลางปี 2563 ท่ามกลางปริศนาต่างๆ มากมาย กระทั่งผ่านมาจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดมุกดาหารได้ตัดสินจำคุก นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงเขยของน้องชมพู่ ด้วยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 , 317 ทว่าก็ได้ประกันตัวในวงเงิน 5 แสนบาท
เมื่อประเด็นมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วทำให้หลายคนต่างสงสัยถึงแรงจูงใจในการกระทำครั้งนี้ ซึ่งในช่วงตอนหนึ่งรายละเอียดจากคำพิพากษาศาลจังหวัดมุกดาหารได้ระบุว่า “ปัญหาต่อมาต้องวินิจฉัยว่า ขณะพาผู้ตาย (น้องชมพู่) ขึ้นไปบนเขาภูเหล็กไฟ จำเลยที่ ๑ (นายไชย์พล) รู้หรือไม่ว่า ผู้ตาย (น้องชมพู่) ถึงแก่ความตายแล้ว หรือยังมีชีวิตอยู่
เห็นว่า จำเลยที่ ๑ (นายไชย์พล) ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์ร่วมทั้งสอง (พ่อ-แม่ น้องชมพู่) หรือผู้ตาย (น้องชมพู่) มาก่อน จึงไม่น่าเชื่อว่า จำเลยที่ ๑ (นายไชย์พล) มีเจตนาฆ่าหรือเจตนาทอดทิ้งผู้ตาย (น้องชมพู่) ประกอบกับรายงานการตรวจศพผู้ตาย (น้องชมพู่) พบรอยช้ำใต้หนังศีรษะ บริเวณหน้าผากด้านซ้าย และท้ายทอย เป็นจ้ำ ๆ
จึงอาจเป็นกรณีที่ผู้ตาย (น้องชมพู่) หมดสติไป ส่วนจำเลยที่ ๑ (นายไชย์พล) ไม่ได้ตรวจดูให้ดีเลยพาผู้ตาย (น้องชมพู่) ไปทิ้งไว้บนเขาภูเหล็กไฟ การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ซึ่งเรื่องนี้ทางด้าน สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดังได้อธิบายไว้สั้นๆ ว่า กรณีนี้คือ “ไม่มีแรงจูงใจ แต่เป็นความประมาท”
แต่นั่นก็ยังคงเกิดคำถามอยู่ดีว่า แล้วใคร หรืออะไร ทำให้น้องชมพู่หมดสติ แล้วเหตุใดจึงต้องพาน้องขึ้นไปยังจุดนั้น ตลอดจนมีข้อสันนิษฐานมากมายบนโลกโซเชียลรวมไปถึงเรื่องราวของไสยศาสตร์ ซึ่งล้วนเป็นการคาดเดาทั้งสิ้น เพราะยังไม่มีความชัดเจนในประเด็นนี้ ส่วนทางลุงพลก็ยังคงปฏิเสธและยืนหยัดจะสู้คดีต่อไป
ขณะเดียวกันหากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร หรือ ท่านเรวัช ตั้งข้อสังเกตในรายการโหนกระแส เกี่ยวกับประเด็นแรงจูงใจของลุงพล โดยบอกว่า มีความเป็นไปได้ว่า ลุงพลเป็นคนเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ จึงอาจจะเอาเด็กหญิงบริสุทธิ์ไปบูชายัญ ลุงพลนับถือพญานาค จุดที่น้องชมพู่ตายเป็นปากถ้ำ
เป็นไปได้ไหมว่า ลุงพลเชื่อว่าพญานาคสิงสถิตอยู่ในนั้น ต้องพาเด็กเดินขึ้นไปเพื่อไปบูชายัญบนนั้น เพราะถ้าคิดจะเอาเด็กไปฆ่าเฉยๆ หรือเอาไปกระทำชำเรา ไม่มีความจำเป็นจะต้องพาเดินขึ้นที่สูงไปขนาดนั้น ส่วนตัวตนมองว่าเขามีเจตนาฆ่า แต่ในเมื่อมันไม่มีประจักษ์พยานหลักฐานยืนยันว่าเขามีเจตนา แต่หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์มันชี้แล้วว่าลุงพลกระทำแน่ๆ ทำให้ศาลมองว่าเป็นการกระทำโดยประมาท