เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2566 สำนักข่าวดัง รายงานว่า ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร นายชัยรัตน์ ยอดพรหม หรือ ปู่มหามุนี ได้นำดอกไม้ลักษณะคล้ายกับพวงหรีด พร้อมกับมีข้อความที่เขียนว่า ให้กำลังใจลุงพลป้าแต๋นมายืนรอที่จะมอบให้ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ที่บริเวณหน้าศาลด้วย นายชัยรัตน์ กล่าวว่า
ไม่อยากให้เรียกว่าพวงหรีด แต่ลักษณะอาจคล้าย ๆ กัน เนื่องจากตนมองว่ามันเหมือนต่างประเทศที่จะมีดอกไม้จัดในงานวันคริสต์มาส และดอกไม้ที่มอบให้นั้น เป็นดอกไม้ที่มีคุณค่า เพราะดอกไม้ที่นำมาให้ ทำจากช้อน สามารถนำไปทานข้าวได้ ตนตั้งใจจะนำดอกไม้นี้มามอบให้กับลุงพลป้าแต๋น เพื่อให้กำลังใจก่อนที่จะขึ้นไปฟังคำพิพากษาของศาล
นายชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะติงทั้งคู่ว่า อย่าไปกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือศาล เพราะคุณไม่มีหลักฐาน อย่าพยายามไปชี้นำสังคมว่าเจ้าหน้าที่ทำผิด ถ้าหากทำผิดจริง ก็ให้แจ้งความตามกฎหมายได้เลย แต่อย่าออกมาพูดโดยที่ไม่มีหลักฐานเพราะมันเป็นการชี้นำสังคมก่อให้เกิดความวุ่นวาย นายชัยรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวคิดว่าวันนี้คำพิพากษาน่าจะมีคำสั่ง เชื่อว่ามีหลักฐานพยาน และเจ้าตัวก็เป็นคนพูดเองว่า เจอน้องชมพู่ระหว่างทางจริง ถึงจะไม่ได้เห็นการกระทำ แต่ว่าเห็นว่าคุณอยู่ในจุดเกิดเหตุ
โดยในวันนี้ถ้าหากว่าลุงพลป้าแต๋นเดินทางมาถึงที่ศาลก็ตั้งใจจะมอบดอกไม้อันนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทั้งคู่ แต่ถ้าหากว่าไม่สามารถมอบให้ได้ก็จะตามไปให้ถึงโรงแรม นายชัยรัตน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ไม่ได้นำมามอบแม่น้องชมพู่ เนื่องจากที่ผ่านมาแม่ของน้องชมพู่อยู่อย่างคนธรรมดา ตนเข้าใจความรู้สึกของแม่ชมพู่ดีว่าสูญเสียลูกและถูกต่อว่ามาตลอด 3 ปี โดนกลยุทธ์ในการสืบคดีทุกวิธี ซึ่งความเจ็บปวดตรงนั้น มันอยู่ในหัวอกของคนเป็นแม่ ตนจึงไม่ขอก้าวก่าย
ฝากบอกลุงพลกับป้าแต๋น แม้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง จะติดนาน ติดไม่นาน หรือว่าจะยก สิ่งสำคัญที่สุดคือสติ เพราะนี่เป็นเพียงแค่เกมแรก ยังมีศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา ถ้าคุณจะผ่านมันไปได้ คือ เงียบปากซะนายชัยรัตน์ กล่าว
