สายไหมต้องรอดลงพื้นที่ช่วยเหลือ นร.หญิง 2 คนถูกรุ่นพี่นักฟุตบอลโรงเรียน 6 คนรุมโทรม-ถ่ายคลิปแบล็คเมล์ หลังเข้าไปในหอพักนักกีฬาช่วงกลางวันแสกๆ
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2567 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เดินทางลงพื้นที่ สภ.ท่าเรือ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.1 จำนวน 2 ราย ถูกรุ่นพี่รุมโทรม ภายในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง
โดยทางเพจได้รับการร้องขอจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 คน ที่เรียนอยู่โรงเรียนมัธยมชื่อดัง ในเขตพื้นที่จ.กาญจนบุรี ว่าเด็กหญิงทั้งสองคน ถูกรุ่นพี่จำนวน 6 คน ซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ล่อลวงไปทำร้ายร่างกาย และร่วมกันกระทำชำเรา พร้อมถ่ายคลิปวีดีโอแบล็คเมล โดยเหตุเกิดที่ห้องพักนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ช่วงกลางวันแสกๆ
นายเอกภพ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากทราบเรื่อง จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่โรงเรียนที่เกิดเหตุในวันนี้ จากการพูดคุยสอบถามข้อมูลกับทาง ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ทำให้ทราบว่า ในส่วนของคดีที่เกิดขึ้นนั้น ทางผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจไว้เรียบร้อยแล้ว
และทางตำรวจได้ทำการสืบสวน จนทราบว่าเบื้องต้นกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนเดียวกันจำนวน 6 คน โดยคนที่ร่วมก่อเหตุ อายุน้อยที่สุดคือ 11 ปี และมากสุดคือ 15 ปี โดยในวันพรุ่งนี้ จะได้มีการนำเด็กทั้ง 6 คน ไปสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี
นายเอกภพยังได้กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนเองยังรู้สึกแปลกใจก็คือ เหตุใดทางโรงเรียนจึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้ ทั้งที่ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงกลางวันแสกๆ มีนักเรียน เดินไปมาอยู่ทั่วไปหมด แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่กลุ่ม นักเรียนชาย 6 คนร่วมกันทำร้ายร่างกาย และกระทำชำเรา อีกทั้งยังถ่ายคลิปช่วงเกิดเหตุ กับเด็กทั้งสองคน และมีการส่งต่อกันภายในกลุ่มผู้ก่อเหตุและเด็กนักเรียนด้วย
ตนเองจึงอยากฝากไปถึงกระทรวงศึกษาธิการ ให้ตรวจสอบระบบความปลอดภัย ภายในโรงเรียนแห่งนี้ และช่วยตรวจสอบให้ละเอียดด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก หรือเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนหรือไม่ พร้อมกันนี้ นายเอกภพยังได้ฝากไปถึง ผู้ที่ส่งต่อหรือแชร์คลิป ที่ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุบันทึกไว้ ว่าใครที่แชร์หรือส่งต่อคลิปดังกล่าว จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
ขณะที่ ด้านผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวจากญาติ ซึ่งมาบอกให้ทราบอีกทีเมื่อช่วงเย็นวานนี้ จึงได้กลับไปสอบถามกับทางลูกสาว จนทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง หลังทราบเรื่องทางโรงเรียนได้มีการติดต่อ เพื่อให้เข้ามาเจรจาพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้ แต่ตนไม่รอและได้ร้องเรียนไปยังเพจสายไหมต้องรอด พร้อมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ
จนถึงขณะนี้ ลูกสาวของตน ยังคงอยู่ในสภาวะจิตใจที่ย่ำแย่ ไม่พร้อมที่จะพูดคุยใดๆ ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ. ตนตั้งใจ ที่จะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกแย่กับทางโรงเรียน ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น หลังจากนี้ก็จะให้ลูกสาวของตนลาออกจากโรงเรียนและย้ายไปเรียนที่อื่น
ทั้งนี้หลังเดินทางมาถึงสภ.ท่าเรือ นายเอกภพได้พาผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงทั้งสองคน เข้าไปพูดคุยกับ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และผกก.สภ.ท่าเรือ โดยทางตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับเด็กผู้เสียหายทั้งสองคนอย่างแน่นอน
จากนั้น จึงได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ เพื่อไปดูบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องเรียนมัลติมีเดีย แต่ในปัจจุบัน ถูกใช้เป็นห้องพักชั่วคราว ของนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน โดยห้องดังกล่าวอยู่ติดกับอาคารโรงอาหารของทางโรงเรียน ซึ่งในแต่ละวัน มีผู้คนเดินผ่านไปมาพลุกพล่าน ภายในห้องพัก มีที่นอน และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของกลุ่มนักกีฬาฟุตบอลวางเรียงรายอยู่ แต่ไม่พบกลุ่มนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน เนื่องจากเดินทางกลับบ้านช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์
ขณะที่โค้ชทีมฟุตบอลโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้ดูแลกลุ่มนักเรียนที่ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ที่เกิดเหตุเป็นหอพักชั่วคราว ของนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียน มีนักกีฬาโรงเรียนอาศัยอยู่รวมกัน 35 คน โดยในวันเกิดเหตุทางโรงเรียนไม่มีการเรียนการสอน จัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เนื่องจากมีทางโรงเรียนขนาดเล็กมาขอใช้สถานที่ภายในโรงเรียนจัดการแข่งขันกีฬา ทางคณะครูจึงได้ไปช่วยจัดการแข่งขันกีฬาให้กับทางโรงเรียนที่มาขอใช้สถานที่ ในหอพักชั่วคราวจึงมีเพียงกลุ่ม เด็กนักเรียนชายซึ่งเป็น นักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนอยู่รวมกันทั้งหมด
ทางโค้ชทีมฟุตบอล ยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากการตรวจสอบภาพวิดีโอกล้องวงจรปิดบริเวณหอพักชั่วคราว พบว่า เด็กนักเรียนหญิงทั้งสองคนเดินเข้ามาภายในหอพักเอง โดยไม่ได้ถูกบีบบังคับหรือถูกฉุดกระชากเข้ามาแต่อย่างใด อีกทั้งในช่วงก่อเหตุ นักกีฬาของโรงเรียน ที่อยู่แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงร้อง หรือการต่อสู้ขัดขืนใดๆ จากทางฝ่ายนักเรียนหญิงทั้งสองคน จึงไม่รู้ว่ามีการก่อเหตุทำร้ายร่างกายและกระทำชำเรากันเกิดขึ้น เด็กบางคนเห็นเพียงว่ามีการใช้ผ้าห่มคลุมโปง คล้ายลักษณะเล่นกัน จึงไม่รู้ว่าเป็นการทำร้ายร่างกายและกระทำชำเรา
นายเอกภพ กล่าวภายหลังดูสถานที่เกิดเหตุเรียบร้อย ว่าได้มีการพูดคุยกับทาง ผอ.สพม.กาญจนบุรี ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทาง ผอ.สพม.กาญจนบุรี ได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน พร้อมอนุญาตให้เด็กที่ได้รับผลกระทบ สามารถหยุดเรียนได้ 3 วัน
โดยจะจัดนักจิตวิทยาเข้ามาพูดคุยกับทางเด็กที่ได้รับผลกระทบด้วย ในส่วนของหอพักนักกีฬา จะต้องมีการหารือกันต่อไป ว่าจะให้มีอยู่ หรือยกเลิก พร้อมกันนี้ ได้มีคำสั่งย้าย ผอ.รร.ที่เกิดเหตุ ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขต พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายในเวลา 7 วัน
ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากจะได้สอบปากคำ และดำเนินคดีกับกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุจำนวน 6 คนแล้ว ยังจะได้มีการสอบสวนขยายผล ว่ามีผู้อื่นร่วมลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับจะได้ขยายผลดำเนินคดี กับผู้ที่มีการแชร์หรือส่งต่อคลิปวิดีโอ ที่กลุ่มเด็กนักเรียนชายผู้ก่อเหตุถ่าย และส่งต่อกันตามกฎหมายด้วย