พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ได้ชี้แจงกรณีเมื่อวานนี้จากกรณีครอบครัวเชื่อมจิต เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันดูหมิ่นด้วยการโฆษณา, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้องเหตุ ที่ หนุ่ม กรรชัย ได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
โดย พ.ต.อ.พันษา บอกว่า ครอบครัวเชื่อมจิตพร้อมทนายความได้มาที่ สน. เมื่อวานนี้ ก่อนวันนัดหมาย 2 วัน เมื่อมาถึงพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพร้อมจะให้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือซึ่งโดยปกติจะต้องพิมพ์ที่ชั้น 2 ที่เป็นห้องคุมขัง แต่เนื่องจากมีเด็กวัย 8 ขวบมาด้วย ทางตำรวจจึงขอให้เด็กอยู่กับทนายความชั้นที่ 1 และจะเชิญตัวพ่อและแม่ขึ้นไปพิมพ์ลายนิ้วมือชั้น 2
แต่พ่อของแม่และเด็กไม่ยินยอมต้องการให้เด็กวัย 8 ขวบอยู่กับพ่อและแม่ตลอดเวลา ตำรวจจึงพิจารณาว่าหากนำตัวเด็ก 8 ขวบ ขึ้นไปร่วมพิมพ์ลายนิ้วมือที่ห้องขังจะไม่เหมาะสม หากมีภาพหลุดออกไป จึงให้มีการพิมพ์นิ้วมือที่ชั้น 1 ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับพนักงานสอบสวน ยืนยันไม่ได้ปฏิบัติงาน 2 มาตรฐานตามที่สังคมกล่าวอ้าง และที่ผ่านมาก็เคยมีคดีที่พิมพ์ลายนิ้วมือชั้นที่ 1
ส่วนประเด็นที่มีตำรวจนายหนึ่งไม่อนุญาตให้ หนุ่ม กรรชัย เข้าไปเข้าห้องน้ำด้านใน สน. โดยใช้คำที่รุนแรงเสียงแข็ง ทาง พ.ต.อ.พันษา ยอมรับว่า กลัวที่จะมีการปะทะ เพราะที่ผ่านมาก็เห็นว่ามีการโพสต์ว่ากันไปมาและมีฝ่ายสนับสนุนทั้ง 2 ฝ่าย ทางเราไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้น ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายจึงใช้กำลังเจ้าหน้าที่มารักษาความสงบความปลอดภัยความเรียบร้อย
ส่วนถ้าจะทำให้ใครไม่ถูกใจ ตนขอน้อมรับไว้ ส่วนที่มีตำรวจลูกน้องใช้คำพูดที่ดูรุนแรงกับหนุ่ม กรรชัย ตนเองได้ตำหนิแนะนำอบรมสั่งสอนลูกน้องแล้ว ว่าเราสามารถใช้คำที่สุภาพนุ่มนวลกว่านี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมได้ ซึ่งหากไม่ถูกใจส่วนไหนตนก็ขอโทษและขอน้อมรับไว้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกับ หนุ่ม กรรชัย และ ทนาย ต่อหน้าสื่อมวลชน ซึ่งได้มีการยกมือไหว้ขอโทษกัน ซึ่งตำรวจนายที่มีประเด็นยอมรับว่า ตนเองเป็นคนพูดไม่เก่ง
เรียบเรียงโดย mumkhao