วันที่ 27 พ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากครูในสังกัดสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี ขอความเห็นใจกรณีถูกทางวิทยาลัยประเมินเงินเดือนรอบนี้เท่ากับ 0 เจ้าตัวโพสต์ในโซเชียลระบายบอกว่า ผลของการสาย สาย 10 ครั้ง (เกิน 1 ครั้ง) ลา 8 ครั้ง 9 วัน (ลาเกิน 1 ครั้ง)
ตามระเบียบการพิจารณาการขึ้นเงินเดือนของข้าราชการ = 0 ผลที่ได้เหมือนละทิ้งหน้าที่ เหมือนหนีสอน เหมือนไปโกงเงินหลวง พร้อมติดแฮชแท็ก คนไม่ชอบทำอะไรก็ไม่ใช่, ทำบุญวันวิสาขาบูชา
ครูสาว ซี 8 พ้อ มาสาย 10 ครั้ง โดนประเมินเท่ากับศูนย์ ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน เผยเหตุผลความจำเป็น ยัน ไม่ได้หนีสอน-ไม่โกงเงินหลวง แฉซ้ำ สอนเกือบ40คาบต่อสัปดาห์
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ ครูโอ๋ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ครูสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา หรือ สอศ.แห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี ครูโอ๋ได้นำหนังสือร้องทุกข์และขอความเป็นธรรม มาให้ผู้สื่อข่าวดู
โดยหนังสือฉบับนี้ส่งไปถึงประธานคณะกรรมการ อ.ก.ค.ศ. และเลขาธิการ สอศ. นายยศพล เวณุโกเศศ ด้วย ในข้อความของหนังสือร้องทุกข์ สรุปเนื้อหาสาระสำคัญ ว่า ตามเอกสารบันทึกข้อความที่ส่งมาด้วย เมื่อข้าพเจ้าได้มาตรวจสอบเอกสารพบว่าไม่ถูกต้องและไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทำให้เกิดการเสียขวัญและกำลังใจในการทำงาน วันลา จำนวน 8 ครั้ง รวม 8.5 วัน และมาปฏิบัติงานสาย จำนวน 10 ครั้ง ซึ่งไม่ถูกต้องตามเอกสารสรุปวันลาของบุคลากรวิทยาลัย ซึ่งมีวันลา 8 ครั้ง รวม 8.5 วัน จริง แต่มาปฏิบัติงานสาย 9 วัน,
เมื่อพิจารณาจากวันลาและวันปฏิบัติงานสาย วันลา เกิน 1 ครั้ง เนื่องจากครั้งสุดท้ายใน วันที่ 28 มี.ค.2567 นั้น ข้าพเจ้าเกิดอุบัติเหตุตกบันได มีอาการปวดหลังล่างไม่สามารถมาปฏิบัติงานได้ และเข้ารับการรักษาการรักษาจริง มีเอกสารใบรับรองแพทย์แนบใบลา
ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดอุบัติเหตุข้าพเจ้าทราบดีว่า ข้าพเจ้าลาไปแล้ว 7 ครั้ง รวม 7.5 วัน แต่การลาครั้งสุดท้ายเป็นการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ทำให้ข้าพเจ้าลาเกินไป 1 ครั้ง ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาไม่ได้มีการให้ข้าพเจ้าทำบันทึกข้อความชี้แจงเหตุผลแต่อย่างใด และมีการพูดโน้มน้าวให้ข้าพเจ้าลงลายมือชื่อรับทราบให้เป็นผู้ถูกงดการเลื่อนเงินเดือน
ข้าพเจ้าจึงขอร้องทุกข์ ขอความเป็นธรรมและความเมตตา ประธานอนุกรรมการ อ.ก.ค.ศ. การอาชีวศึกษา และเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายยศพล เวณุโกเศศ ได้พิจารณา อนุโลมเลื่อนเงินเดือนของข้าพเจ้า และไม่เป็นผู้ถูกงดการเลื่อนเงินเดือนในครั้งนี้
ครูโอ๋ กล่าวว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นครูซี 8 รับราชการมา 13 ปี ด้วยภาระที่ต้องดูแลลูกและครอบครัว ลำพังเงินเดือนไม่พอใช้ เพราะไปกู้สมัยอยู่กับสามีคนเก่าแล้วต้องเลิกรากันไป ต้องรับภาระคนเดียว จึงต้องไปหางานร้องเพลงตามผับและร้านอาหาร
ครูโอ๋ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ไม่สบายใจเพราะไม่ได้ขึ้นเงินเดือนแม้แต่บาทเดียว เพราะทางวิทยาลัยประเมินออกมาว่า นับวันลาวันสายเกินคือ สาย 1 ครั้ง ลาเกิน 1 ครั้ง จึงประเมินไม่ขึ้นเงินเดือนให้ครั้งนี้ คือเท่ากับ 0
ครูโอ๋ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยตั้งใจที่จะให้ขาดงานหรือมาสายเลย มันมีเหตุเพราะต้องไปส่งลูกไปโรงเรียน แล้วต้องขับรถมาวิทยาลัยระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร แต่ยอมรับลาเกินมา 1 ครั้ง ส่วนสายก็เกิน 1 ครั้ง แต่สายเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น ไม่ใช่มาสายเป็นชั่วโมงหรือหลายชั่วโมง
ครูโอ๋ กล่าวด้วยว่า อย่างในวงดนตรีของตน ก็มีครูโรงเรียนอื่น เพื่อน ๆ พี่ ๆ เขาก็บอกว่าทางโรงเรียนและวิทยาลัยเข้าใจก็ไม่เคยปรับขึ้นเงินเดือนเท่ากับ 0 เลย อย่างต่ำก็ 2.4 เข้าใจมาลาและมาสาย แต่อยากให้เห็นใจ อะลุ่มอะหล่วยให้บ้าง กับการลาและมาสายเกิน 1 ครั้ง
กับคาบสอนหนูสัปดาห์ ๆ หนึ่งซึ่งเขาไม่ให้เกิน 20 คาบต่อสัปดาห์ แต่ของหนูสอนไปเกือบ 40 คาบต่อสัปดาห์ น่าจะเอามาถัวเฉลี่ยให้บ้าง แต่นี่จะเล่นกันให้ตาย ไม่ขึ้นเงินเดือนให้เลย หนูไม่ได้ทำอะไรผิด ไปเป็นนักร้องตามผับและร้านอาหาร อันไหนควรไม่ควรก็ทราบอยู่ ครูโอ๋ กล่าว
ครูโอ๋ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ทางวิทยาลัยได้ส่งหนังสือไปกรุงเทพฯ เรื่องการปรับเงินเดือนเท่ากับ 0 ทางสถาบันอาชีวศึกษาก็ทำหนังสือมาจะเอาแบบนั้นหรือ ทางผู้บริหาร ก็ยืนยัน ยังไงก็ไม่ขึ้นเงินเดือนให้ หรือว่าผู้บริหารไม่ชอบตน เห็นครูไปร้องเพลง เพราะ ผอ.เคยตำหนิว่า ทำแบบนี้ผิดจรรยาบรรณและจริยธรรม
ครูโอ๋ กล่าวอีกว่า แล้วทีผู้บริหารไปกินเหล้าด้านหลังวิทยาลัยคืออะไร เหมาะสมไหม อยากให้เห็นใจตนด้วย ตนไม่ได้ฆ่าคนตาย ไม่ได้หนีสอน ไม่ได้โกงเงินหลวงสักหน่อย