โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เปิดจุดเกิดเหตุ บุ้ง ทะลุวัง ฟุบก่อนหมดสติ นอนเตียงเดียวกับ ตะวัน ยืนยันมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต มีกล้องวงจรปิด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 พ.ค.2567 เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ นำสื่อมวลชนเข้าดูอาคารผู้ป่วยนักโทษหญิง ภายในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งสื่อมวลชนที่เข้าไป จะต้องถูกเก็บเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสาร เข้าไปได้เพียงแต่ตัวเท่านั้น
เมื่อผ่านเครื่องคัดกรอง ก็จะเจอ 2 อาคาร ซึ่งด้านซ้ายเป็นอาคารผู้ป่วยชาย สูง 9 ชั้น ด้านขวาเป็นอาคารผู้ป่วยหญิงสูง 2 ชั้น สำหรับจำนวนนักโทษที่ต้องรักษาภายในโรงพยาบาลมีทั้งสิ้น 424 คน เป็นชาย 370 คน และหญิง 54 คน (อัพเดตวันที่ 20 พ.ค.67) หน้าประตูเข้าแดนผู้ป่วยหญิง จะมีถนนและทางลาดเข้าตัวอาคาร ซึ่งบริเวณทางเข้า จะมีเข้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน
ชั้นที่ 1 ของอาคาร เป็นห้องขนาดใหญ่ และแบ่งเป็นห้องพักแพทย์ ห้องเก็บอุปกรณ์ ห้อง ICU ห้อง treatment ห้องเฝ้าระวัง และทางเดินด้านหน้าทางเข้าห้องต่าง ๆ จะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับห้อง ICU ขนาด จากการประเมินด้วยสายตา มีกว้างประมาณ 2.5 เมตร ยาวประมาณ 3 เมตร
ภายในห้อง จากคำบอกของเจ้าหน้าที่ มีอุปกรณ์สำหรับกู้ชีพฉุกเฉิน ได้แก่ เครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ หรือ Defibrillator, เครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจของหัวใจผู้ป่วย หรือ EKG Monitor ซึ่งจะใช้วัดทุก 3 นาที,
กล่อง Magic box (กล่องยาฉุกเฉิน), ยาทุกชนิดสำหรับการรักษาภาวะวิกฤตฉุกเฉิน, สารอื่นในการขยายหลอดเลือดช่วยการเต้นของหัวใจ เช่น กลูโคส อะดรีนาลีน, เครื่องวัดความดัน, เครื่องคำนวณอัตราการเต้นของหัวใจ, ท่อช่วยหายใจ, กล่องอุปกรณ์ข่วยหายใจ หรือ Ambu Bag เป็นต้น
และมีเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำ 6-7 คน แพทย์ 2 คน ตามเวลาราชการ แต่หากหลังจากนั้นจะเหลือพยาบาลเพียง 2 คน และแพทย์ 1 คน ส่วนกล้องวงจรปิด มี 4 ตัว แบ่งเป็น ทางเดินด้านนอก 2 ตัว และภายในห้องกระจก 2 ตัว อยู่มุมซ้ายขวา
สำหรับทางเดินหน้าห้องกระจก กว้างประมาณ 3 เมตร แต่มีชั้นล็อกเกอร์สูงประมาณ 80 เซนติเมตร วางตามแนวกำแพง และมีโต๊ะวางอยู่ริมระเบียง จำนวน 3 โต๊ะ ซึ่งมีโต๊ะ 1 ตัววางอยู่ใกล้ทางขึ้นบันได ซึ่งบันไดมีขนาด 1.2 เมตร
เมื่อเดินดูชั้น 2 จะมีห้องขนาดใหญ่ทั้งหมด 4 บล็อก (Blog) เลขที่ 2/1-2/4 โดยทุกห้องเป็นห้องพัดลมทั้งหมด ส่วนทางเดินหน้าห้องมีชั้นวางหนังสือ 1 ตู้ ความสูง 1 เมตร และมีที่นั่งม้าหินยาวทอดริมระเบียง
ขณะที่ห้องเลขที่ 2/1-2/2 พบว่ามีเตียงวางทั้งหมด 10 เตียง โดยไม่มีกระจกกั้นใด ๆ ขณะที่ห้องเลขที่ 2/3-2/4 จะถูกแบ่งไว้ทั้งหมด 4 ห้อง (พร้อมเตียง 4 เตียง ขนาด 3 ฟุต มีหมอน 2 ใบ คือ สีน้ำตาล 1 ใบ และสีขาว 1 ใบ ผ้าห่มสีฟ้า 1 ผืน และเตียงถูกปูด้วยผ้าปูสีขาว) และมีกระจกพร้อมติดตั้งลูกกรงสีน้ำตาล
ขณะที่ในส่วนทางเดิน หรือปลายเท้าของผู้ป่วย จะเป็นเตียงนอนและที่นั่งสำหรับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ (อสรจ.) ซึ่งจะสวมเสื้อสีฟ้า จำนวน 1 รายต่อ 1 บล็อก รวมทั้งหมดบนชั้น 2 มีเจ้าหน้าที่ อสรจ. รวม 4 ราย
อีกทั้งจะมีป้ายวางบริเวณหน้าห้องผู้ป่วยแต่ละบล็อก เพื่อบอกจำนวนผู้ต้องขังที่ป่วยภายในห้องนั้น ๆ ว่ามีกี่ราย เป็นศาสนาใดบ้าง และมีกี่รายออกไปศาล
สำหรับห้องพักผู้ป่วยของบุ้ง กว้างประมาณ 1.1 เมตร ยาวประมาณ 2 เมตร ส่วนเตียงของบุ้งและตะวัน เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า บุ้งและตะวันนอนเตียงเดียวกัน โดยเป็นคำร้องขอจากทั้งคู่ ซึ่งเตียงมีขนาด 3 ฟุต และภายในห้องมีชั้นลิ้นชัก 3 ชั้น
ด้านบนมีการวางเครื่องวัดความดันแบบพกพา ยาแก้ปวดท้อง ยาแก้ปวดศีรษะ เจลแอลกอฮอล์ และปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล 3 แท่ง และยังมีหัวเตียงมีจ่ายออกซิเจนบนหัวเตียงอีกด้วย
ซึ่งห้องของบุ้งอยู่ติดริมลูกกรงทางเดิน ส่วนกล้องวงจรปิดจากที่สังเกตเห็นเพียงบริเวณทางเดินด้านหน้า 1 ตัว มุมกล้องหันมาที่เตียงของบุ้ง
ประเด็นเรื่องรถนําตัวผู้ต้องขังป่วยส่งโรงพยาบาลแม่ข่าย (Ambulance) นั้น หากเกิดภาวะวิกฤตฉุกเฉินแก่ผู้ต้องขังป่วย รถประเภทดังกล่าว ซึ่งมีจำนวน 2 คัน
โดย 1 ในนั้น คือ รถทะเบียน 8กช4837 กรุงเทพมหานคร เป็นรถที่ใช้นำตัว น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ซึ่งมีภาวะฟุบ วูบหมดสติ จับสัญญาณชีพจรด้วยมือไม่ได้ ออกจากแดนหญิง ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติฯ
ซึ่งรถจะขับออกมาจากลานจอดรถที่บริเวณด้านหน้าอาคารทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยมีระยะทางไม่เกิน 50 เมตร ก่อนเข้าประตูแดนหญิง และเข้าจอดเทียบบนทางลาดใต้อาคารเพื่อรับตัวผู้ป่วย ก่อนขับวนออกประตูสำหรับรถนำส่งผู้ป่วย ซึ่งเป็นประตูเหล็กม้วน
ส่วนอุปกรณ์ภายในรถพยาบาล ยกตัวอย่างเช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (AED), หน้ากากอ๊อกซิเจน, เครื่องช่วยหายใจแบบบีบมือ (ambubag), ถังoxygen, เครื่องใส่ท่อช่วยหายใจ (Laryngoscope), กระเป๋าช่วยชีวิตฉุกเฉิน ชุดเฝือกลม ชุดล็อคศีรษะ เป็นต้น
นอกจากนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามรายละเอียด ในห้อง ICU แต่เจ้าหน้าที่ที่พาเดินดูไม่สามารถตอบได้ว่าภายในห้อง ICU มียาประเภทใดบ้าง บอกเพียงมียาทุกประเภท และ เมื่อถามเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถบอกได้ บอกแค่ว่าเป็นไปตามที่ผู้บริหารกระทรวงแถลง
จุดข้อสงสัยตามที่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงว่าหลังจากที่บุ้งลุกขึ้นมานั่งและล้มลงไปเจ้าหน้าที่ได้ยกตัวบุ้งพร้อมที่นอนลงมาจากชั้น 2 มายังห้องไอซียูด้านล่าง แต่ขนาดพื้นที่ที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปดูบริเวณทางขึ้นบันไดชั้น 1 มีโต๊ะกั้น อาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการยกที่นอนที่มีร่างบุ้งอยู่ด้านบนมา ICU ได้
ขณะที่ประตูเข้าห้องผู้ป่วย จะมีการล็อกแม่กุญแจจากด้านนอก ฉะนั้นขณะเกิดเหตุมีความเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่ อสรจ. จะต้องตะโกนให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ขึ้นมาเปิดประตู ก่อนจะยกตัวบุ้งออกไปยังห้อง ICU