นี่สิของจริง ‘น้องใบบุญ’ ออกโหนกระแสพูดคำนี้ทำอึ้ง

เด็กแบบนี้สิที่ควรไหว้
แห่ชมทั้งประเทศ ‘น้องใบบุญ’ ออกโหนกระแสแล้ว ‘แพรรี่-พี่หนุ่ม’ ถามซึ้งเรื่องเด็กเทพ

รายการโหนกระแส วันนี้ พูดคุยกับ “น้องใบบุญ” เด็กชายวัย 6 ขวบ ที่เป็นที่รู้จักในโซเชียล จากการศึกษาธรรมะ และตั้งใจว่าจะบวชตลอดชีวิต แต่เจ้าตัวและครอบครัวยืนยันว่า ตัวเองไม่ใช่ผู้วิเศษ เป็นคนธรรมดาทั่วไป และไม่คิดว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ให้ใครมากราบไหว้

น้องใบบุญ รัชพล ตรงต่อกิจ ลูกชายคนเล็กของครอบครัว เล่าให้พี่หนุ่มฟังว่า พี่ชายคนกลางชื่อพี่ฟอร์ด ตอนนี้เป็นเฌรพี่ฟอร์ด ไปบวชสามเณรตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตอนนี้ยังไม่สึก

คุณแม่นิม คุณแม่ของน้องใบบุญ เล่าว่า เฌรฟอร์ด มาขอคุณแม่หลายครั้ง ขอบวช ช่วงแรกๆ เราก็ไม่อยากให้เขาไปบวชเพราะตอนนั้นยังเด็กมาก จนวันหนึ่งเขาไปเล่นกับเพื่อน แล้วกลับบ้านมาเล่าคุณแม่ว่า เขาเป็นประตูนรก จิตตก มีอาการหดหู่ยาวนาน เราพยายามพาลูกไปพักผ่อน ผ่อนคลาย ก็ยังไม่หาย เขาก็ยังมีอาการเศร้าอยู่ คุณแม่ก็พาไปพบพระอาจารย์ท่านหนึ่ง พระอาจารย์แนะนำว่า ให้ลองพาน้องไปเที่ยว ไปพักจิตใจเผื่อจะดีขึ้น คิดว่าน้องจะเลิกคิดเรื่องบวชแล้ว สุดท้ายน้องมาบอกว่า น้องจะบวชวันที่ 15 ธ.ค. 65 เท่านั้น

สุดท้ายพาน้องไปบวชที่วัดป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติเคร่งครัด ฉันมื้อเดียว ไปขอพระอาจารย์ ตอนแรกขอบวช 7 วัน พอครบกำหนด เณรฟอร์ดก็ขอผัดผ่อนเรื่อยมา จาก 7 เป็น 9 เป็น 15 เป็น 30 วันเรื่อยมา ท้ายที่สุดเณรบอกขอบิณฑบาตได้ไหม ขอบวชตลอดชีวิตได้ไหม จนทำให้ตอนนี้สองปีกว่าแล้วที่ยังเป็นสามเณรอยู่

ส่วนน้องใบบุญ เขาอยากบวชตามพี่ชาย เคยบวชสามเณรฤดูร้อน ซึ่งน้องก็บอกว่าอยากจะบวชให้นานกว่านี้ แต่เราก็รู้สึกว่าเด็กในวัยเขาควรต้องศึกษา เรียนหนังสือก่อน เขาขอบวชอีก แต่คุณแม่ก็ขอให้เขารับปากว่า ถ้าบวช ก็บวชได้ในระยะเวลาสั้นๆ แม่กลัวว่าเขาจะไม่สึก

คุณแม่บอกอีกว่า การใช้ชีวิตทั่วๆ ไปของน้องใบบุญ ก็เหมือนเด็กๆ ทั่วไป ร่าเริงเป็นปกติ แต่ในหลายเรื่องเขาก็ดูคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่เกินเด็ก 6 ขวบ

น้องใบบุญพูดหลายเรื่องในรายการที่ทำให้ผู้ใหญ่อึ้ง อาทิ น้องพูดถึงเจตนาที่อยากจะบวชและปฏิบัติให้ถึงนิพพาน เพราะชีวิตมนุษย์มีแต่หนทางไปสู่ทุกข์ ยกตัวอย่าง เราไปเล่นกับเพื่อน ถึงเวลาต้องแยกกัน เราก็เศร้าแล้ว อันนี้คือทุกข์

พี่เณรฟอร์ดชอบพาน้องใบบุญไปดูพิธีฌาปนกิจ เผาศพ น้องใบบุญบอกว่า เวลาที่ได้เห็นก็จะรู้สึกว่า วันหนึ่งทุกคนก็ต้องมาเป็นแบบนี้ ไม่มีใครหนีได้ ถึงเวลาก็ต้องมาตาย เผาเป็นเถ้าถ่านเหมือนกันหมด

แพรรี่ บอกว่า ในเรื่องจินตนาการต่างๆ ของเด็ก เราคงไม่ไปก้าวล่วง แต่ความคิดอ่านของเด็กๆ ที่เลื่อมใสศรัทธา ตนก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี ในเรื่องที่น้องใบบุญพูด เชื่อว่าคิดอ่าน เห็นธรรมได้มากกว่าตน ตอนที่บวชสมัยเด็กๆ เสียอีก

คุณแม่บอกว่า มีชาวบ้านติฉินนินทาเป็นธรรมดา เวลาเห็นน้องใบบุญศรัทธาในพระธรรมเกินเด็กทั่วไป เขาก็จะเข้ามาคอมเมนต์ด่าแม่บ้าง ด่าน้องบ้าง น้องใบบุญบอกว่า ไม่โกรธ ให้อภัยเขา เพราะคนที่เขาด่า ถึงเวลาก็เป็นทุกข์เอง

ขณะที่น้องใบบุญและคุณแม่พูดตรงกันว่า น้องไม่ได้เป็นผู้วิเศษ ไม่มีอภินิหาร เพียงแต่สนใจใฝ่ธรรมะ น้องใบบุญเองยังบอกว่า สิ่งพิเศษของน้องเองมี 2 อย่าง คือ กินเก่ง กับ ดื้อบ้างบางครั้ง

น้องใบบุญยังสอนธรรม หลายครั้งมีคนมาปรึกษาว่าเป็นทุกข์จังเลย ทุกข์เรื่องนั้นเรื่องนี้ อยากจะบอกว่า สุขเกิดแล้วก็ดับไป ทุกข์เกิดแล้วก็ดับไป นอกเหนือจากนี้ไม่มี

แพรรี่บอกว่า สิ่งที่น้องใบบุญพูดมานี้ ถ้าหากบวชเป็นพระ ถือว่าความรู้ระดับพระมหาแล้ว เพราะคำสอนนี้เป็นคำสอนในพระธรรมบท หลายคนเชื่อกันว่าให้หมั่นสร้างบุญ สะสมบุญไว้เยอะๆ แต่คำสอนจริงๆ ไม่ใช่ คนเราหากปล่อยวางทุกข์ ก็ต้องปล่อยวางสุขด้วย ลอยบาปแล้ว ก็ต้องลอยบุญด้วย ต้องไม่ยึดติดกับสิ่งใด